ข้อควรรู้ ! การเตรียมตัวจัดฟัน ดันฟันครั้งแรก ราคาเท่าไหร่ มีขั้นตอนอย่างไร 2021

เตรียมตัวจัดฟัน จัดฟันครั้งแรก

การจัดฟัน คือ การรักษาความผิดปกติของการเรียงฟัน และการสบฟัน รวมทั้งปัญหาความผิดปกติของขนาดและความสัมพันธ์ของขากรรไกรต่อใบหน้า การจัดฟันเพื่อให้มีการสบฟันที่ดีขึ้น เพื่อการบดเคี้ยวอาหารที่มีประสิทธิภาพ

รวมทั้งลดอัตราเสี่ยงในการเกิดฟันผุหรือโรคเหงือกอันเนื่องมาจากความลำบากในการทำความสะอาดฟันและเหงือก ในบริเวณที่ฟันเรียงตัวผิดปกติ หลีกเลี่ยงการเกิดการสึกของฟันที่ผิดปกติจากการเรียงฟันหรือสบฟันที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ยังอาจช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพจากการที่มีฟันเรียงกันสวยงาม

การจัดฟัน มีทั้งจัดฟันแบบทั่วไป และการจัดฟันที่ต้องมีการผ่าตัดเข้ามาร่วมด้วยหรือที่เรียกว่า การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร (Orthognathic Surgery)

การจัดฟัน

การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร คืออะไร

จัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร (Orthognathic Surgery) เป็นวิธีการรักษาคนไข้ที่ประสบปัญหา หน้าเบี้ยว คางยื่น ปากอูม ยิ้มเห็นเหงือกเยอะ ฟันล่างคร่อมฟันบน และมีปัญหาในการบดเคี้ยวผิดปกติ เนื่องจากการสบฟันที่ผิดปกติ และโครงสร้างของกระดูกขากรรไกรที่เจริญเติบโตไม่เท่ากัน ซึ่งการจัดฟันเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ จำเป็นจะต้องมีการผ่าตัดเลื่อนกระดูกขากรรไกรร่วมด้วย

การผ่าตัดขากรรไกรนั้น อาจจะผ่าขากรรไกรเดียว (1-jaw) หรือ สองขากรรไกร (2-jaw) ก็ได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะความผิดปกติของขากรรไกร โดย ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการจะทำการประเมินการรักษาร่วมกับทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อให้คนไข้มีใบหน้าที่สมมาตร สวยงาม และการสบฟันที่ดีขึ้น ซึ่งแผนการรักษาของผู้ป่วยแต่ละท่านจะยากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปัญหาของกระดูกขากรรไกรและการกัดสบฟัน

จัดฟันแล้วหน้าเปลี่ยนไหม

การจัดฟันไม่ได้มีผลทำให้ใบหน้าเปลี่ยนแปลงโดยตรง เนื่องจากในบางเคสที่มีการจัดฟันร่วมกับการถอนฟันจึงทำให้ใบหน้าอาจเปลี่ยนแปลงได้ ในบางเคสที่มีปัญหาเรื่องฟันล่างยื่นการดึงฟันล่างเข้า ทำให้คางชัดขึ้น หรือในเคสที่มีฟันบนยื่น การดึงฟันบนเข้า อาจทำให้จมูกดูโด่งขึ้นได้

ทั้งนี้ผลลัพธ์การรักษาขึ้นอยู่กับโครงสร้างของแต่ละบุคคล และขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์

จัดฟันทั่วไป มีกี่แบบ

จัดฟันมีกี่แบบ ? การจัดฟันสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกันคือ

  • การจัดฟันแบบชนิดติดแน่น: เป็นวิธีจัดฟันที่ใช้กันมาอย่างแพร่หลายและยาวนาน เครื่องมือทำด้วยวัสดุที่เป็นโลหะ
  • การจัดฟันแบบถอดได้: เป็นการจัดฟันแบบถอดได้ ไม่ต้องติดเครื่องมือจัดฟันบนฟัน ผู้มารับบริการ หรือที่เรียกกันในปัจจุบันก็คือ Invisalign

โดยทั้ง 2 ประเภทนี้ มีชนิดของเครื่องมือจัดฟันให้เลือกได้เหมาะสมกับตามความต้องการการตัวผู้้เข้ารับบริการ 4 แบบดังนี้

1. จัดฟันแบบติดเครื่องมือ

การจัดฟันชนิดครื่องมือติดแน่นคือ ลักษณะของเครื่องมือจะติดอยู่ที่ผิวฟัน อาจเป็นด้านข้างแก้ม (ด้านหน้า) หรือด้านลิ้น (Lingual orthodontics)

แต่ส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะนิยมติดเครื่องมือบริเวณด้านข้างแก้มมากกว่า เพราะสะดวกต่อการดูแลรักษาทำวามสะอาด การจัดฟันชนิดติดแน่นมีด้วยกัน 2 แบบด้วยกันคือ วัสดุที่ใช้อาจจะเป็นโลหะและวัสดุสีเหมือนฟันเช่น เซรามิก

จัดฟันแบบโลหะ

การจัดฟันแบบโลหะธรรมดา (Bracket Brace)

จัดฟันแบบโลหะ / จัดฟันเหล็ก (metal) เป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีราคาที่ย่อมเยาว์ โดยปัจจุบันการจัดฟันโลหะได้มีการพัฒนาขนาดของวัสดุที่ใช้ให้มีขนาดเล็กลง คุณภาพสูงขึ้น และให้ความรู้สึกใส่สบายมากขึ้น

สามารถเปลี่ยนสีสันยาง (O-ring) ที่ผู้รับบริการสามารถเลือกสีที่ชอบเปลี่ยนได้ทุกเดือน การจัดฟันติดแน่น จะมีการปรับเครื่องมือทุกๆ เดือน คุณหมอจัดฟันจะปรับเหล็กจัดฟันทุกๆ 4-6 สัปดาห์ เพื่อให้ฟันเคลื่อนไปยังตำแหน่งที่เหมาะ ถือว่าเป็นการจัดฟันที่ราคาน้อยกว่าชนิดอื่นๆ

จัดฟันดามอน

จัดฟันแบบดามอน (Damon System)

การจัดฟันแบบดามอน เป็นมากกว่าการจัดฟันธรรมดา การจัดฟันดามอนเป็นนวัตกรรมจัดฟันสมัยใหม่ ที่มีจุดเด่นในเรื่องการทำงานของเครื่องมือจัดฟัน ที่ออกแบบมาให้คนไข้มีความรู้สึกสบาย เจ็บน้อยลง

โดยระบบของการผสมผสานระหว่าง Self-ligating brackets, Hi-tech arch wires เป็นเครื่องมือสมัยใหม่ที่ช่วยเคลื่อนฟันได้เร็วขึ้น และด้วยความเรียบลื่นของวัสดุ จะช่วยให้คนไข้รู้สึกระคายเคืองน้อยลง อีกทั้งยังมีความแข็ง

จัดฟันเซรามิก

จัดฟันแบบเซรามิก (Ceramic)

จัดฟันแบบเซรามิก สีเหมือนฟัน การดัดฟันแบบสีเหมือนฟัน เป็นการจัดฟันแบบติดเครื่องมือ คล้ายๆ กับแบบโลหะ แต่แตกต่างกันที่วัสดุ จะใช้แผ่นวัสดุที่ใช้ติดบนผิวด้านหน้าฟันเรียกว่า Bracket เป็นเซรามิกใสและสีเหมือนฟัน

การเคลื่อนฟันจะเป็นไปตามรูปแบบการปรับลวดในทิศทางที่ทันตแพทย์ต้องการ ทำให้การจัดฟันสีเหมือนฟันเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่สนใจจัดฟันแต่ไม่อยากให้ผู้อื่นสังเกตเห็นเครื่องมือจัดฟัน

2. จัดฟันแบบถอดได้

การจัดฟันแบบเครื่องมือถอดได้ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งและกำลังเป็นที่นิยมในบรรดา ดารา นักแสดง พิธีกรทีวีโทรทัศน์ คือ การจัดฟันแบบใส Invisaligh ซึ่งเป็นการจัดฟันที่สามารถถอดเครื่องมือออกได้เมื่อต้องการ

การจัดฟันชนิดนี้เป็นการจัดในคนไข้ที่ไม่สะดวกในการเดินทางมาพบแพทย์ หรือคนไข้ที่จำเป็จะต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ จนไม่มีเวลาให้กับทันตแพทย์ของตนเอง ลักษณะของการจัดฟันแบบใส เหมาะกับบุคคลที่ต้องการความมั่นใจ

จัดฟันใส

จัดฟันแบบใส Invisalign

จัดฟันแบบใส Invisalign คือเครื่องมือจัดฟันใสที่ทันสมัยในการจัดฟัน ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟัน ให้มีความสวยงามและเหมาะสมได้โดยไม่ต้องติดเครื่องมือ การจัดฟันชนิดนี้สามารถถอดออกได้เมื่อต้องการ และมีความใสแทบมองไม่เห็น ระยะเวลารักษาที่ชัดเจน โดยทันตแพทย์จะทำการเปลี่ยนเครื่องมือ ให้ตามแผนการรักษา

ใครบ้างที่ควรจัดฟัน

การจัดช่วยทำให้การเรียงตัวของฟันสวย ฟันอยู่ในตำแหน่งกัดสบที่เหมาะสม แล้วใครบ้างที่ควรจัดฟัน

ลักษณะของคนไข้ที่ควรจัดฟัน

  • ฟันบนยื่น — ฟันบนยื่นออกมาข้างหน้ามากไป หรือที่ใคร ๆเรียกว่าฟันเหยิน
  • ฟันล่างยื่น — ฟันล่างยื่นออกมาข้างหน้ามากไป
  • ฟันกัดคร่อม — ไม่สามารถขบได้พอดีกับฟันล่าง
  • ฟันสบเปิด — เมื่อสบฟันแล้วมีช่องว่างระหว่างฟันบนกับฟันล่าง
  • ฟันห่าง — มีช่องว่างระหว่างฟันหรือฟันที่ขึ้นมาไม่เต็มหรือฟันซี่เล็กที่อาจเกิดจากพันธุกรรม
  • ฟันกัดเบี้ยว— จุดศูนย์กลางของฟันบนไม่ตรงกับฟันล่างหรือเรียกว่า Midline ไม่ตรง
  • ฟันซ้อน — ฟันที่ขึ้นมามากเกินไปจนเกทับกันหรือฟันซี่ใหญ่

จัดฟันดีไหม ข้อดีของการจัดฟัน

การจัดฟันมีขึ้นเพื่อสงเสริมสุขภาพฟันให้ดีขึ้น ข้อดีของการจัดฟันคือ ทำให้ฟันเรียงตัวสวย ช่วยให้แปรงฟันได้สะอาด ลดการเกิดฟันผุ เหงือกอักเสบ การสบฟันที่ดี เคี้ยวอาหารได้ละเอียดขึ้น รวมถึงฟันสวยขึ้น ทำให้ยิ้มสวย เสริมบุคลิกภาพ

การจัดฟันทำได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดตั้งแต่ 10 ปี เพราะร่างกายกำลังเจริญเติบโต

การเตรียมตัวก่อนการจัดฟันครั้งแรก

เมื่อตัดสินใจแล้วว่าต้องการจัดฟัน สำหรับคนที่เข้ารับการจัดฟันครั้งแรก ราคาเริ่มต้นจ่ายเท่าไหร่

ก่อนการจัดฟัน

  • ต้องพิมพ์ปากทำแบบหล่อฟัน เพื่อใช้ในการวางแผนการรักษา 1,000 บาท การ X-Ray เพื่อวิเคราะห์ลักษณะโครงสร้างของฟันและขากรรไกร รวมทั้งใบหน้า
  • X-Ray เพื่อวางแผนการรักษา ก่อนเริ่มต้นการจัดฟัน จำนวน 2 ฟิล์ม ฟิล์มละ 600 บาทระหว่างการรักษาอาจต้อง X-Ray เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของขากรรไกรและใบหน้า ฟิล์มละ 600 บาท
  • ก่อนถอดเครื่องมือจัดฟันต้อง X-Ray ทั้งปาก อีกครั้ง ฟิล์มละ 600 บาท
  • ค่ารักษาในการจัดฟันเริ่มต้นที่ 38,000-52,000 บาท (แบบจัดฟันโลหะ ไม่รวมค่าอุดฟัน, ถอนฟัน, ขูดหินปูน การตรวจ, และเครื่องมือพิเศษอื่นๆ)

การชำระค่าบริการ เมื่อเริ่มต้นติดเครื่องมือ
ครั้งที่ 1-5 ชำระครั้งละ 3,400 บาท
ครั้งต่อไป จ่ายค่าปรับเครื่องมือ ครั้งละ 1,500 บาท จนครบค่ารักษาที่ตกลงไว้ก่อนการรักษา

หลังการจัดฟัน

ต้องทำเครื่องมือคงสภาพฟัน (Retainers) 2 ชิ้น ราคามูลค่า 4000 บาท โดยรวมอยู่ในราคาแพ็คเกจที่แพทย์แจ้งก่อนทำการจัดฟัน

การดูแลช่องปากและฟันในระหว่างจัดฟัน ในระหว่างจัดฟันจำเป็นต้องการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันอย่างดี เช่น

  • แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
  • ใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี และสม่ำเสมอ
  • เข้าพบทันตแพทย์ตรวจเช็คช่องปาก ขูดหินปูน ทุก 6 เดือน เพื่อป้องกันการเกิดเหงือกอับเสบระหว่างการจัดฟัน

*** หมายเหตุ: ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยที่ไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เครื่องมือการจัดฟัน

ทำความรู้จักวัสดุและอุปกรณ์จัดฟันก่อนตัดสินใจ อุปกรณ์จัดฟันมีหลายชนิด หลายรูปแบบ โดยอุปกรณ์จัดฟันแบบติดแน่นหรือที่เรียกกันรวมๆ ว่าจัดฟันลวด ที่ผู้เข้ารับการจัดฟันควรรู้จัก มีดังนี้

  • แบร็กเก็ต (Bracket) หรือเหล็กจัดฟัน เป็นอุปกรณ์ที่ติดบนตัวฟัน จะมีช่องสำหรับใส่ลวด และขอบสำหรับเกี่ยวยางจัดฟัน บางตัวจะมีฮุค (Hook) มีรูปร่างคล้ายตะขอไว้สำหรับเกี่ยวยางดึงฟันเพิ่มเติมด้วย
  • ยางรัดฟัน (O-ring) มีหลายสี ทำหน้าที่เป็นตัวรัดให้ลวดอยู่ในช่องของแบร็กเก็ต เพื่อให้ลวดค่อยๆ เคลื่อนฟันไปสู่ตำแหน่งที่ต้องการ
  • เชนจัดฟัน (Chain, Power-Chains หรือ C-Chains) มีหลายสี ทำหน้าที่เคลื่อนฟันไปในตำแหน่งที่ต้องการ ไม่จำเป็นต้องใส่ทุกคน ขึ้นอยู่กับแผนการรักษาของทันตแพทย์

การเลื่อนฟันบางตำแหน่งในการจัดฟัน ต้องอาศัยความร่วมมือของคนไข้เป็นสิ่งสำคัญ โดยการใส่หนัง ยางดึงฟัน (Elastic) ตามที่ทันตแพทย์จัดฟันแนะนำอย่างเคร่งครัดจะทำให้ฟันเลื่อนเข้าที่ได้รวดเร็ว

ทันตแพทย์จัดฟันจะแนะนำวิธีใส่หนังยาง ทิศทางและตำแหน่งของหนังยาง รวมทั้งระยะเวลาในการใส่ เช่น ใส่ตลอดเวลา หรือ ใส่เฉพาะบางเวลา คนไข้ควรเปลี่ยนหนังยางทุก 12 – 24 ชั่วโมงหลังใส่ เพราะยางจะล้า หมดแรงดึง ควรใส่หนังยางคืนทันทีหลังทานอาหารและหลังทำความสะอาดฟัน

การใส่หนังยางไม่สม่ำเสมอ ฟันจะเลื่อนไปแล้วเลื่อนกลับ ถ้าตะขอที่เกี่ยวหนังยางบิด หรือหัก ให้รีบติดต่อทันตแพทย์ทันที ฟันที่เกี่ยวหนังยางอาจมีอาการเจ็บ ๆ หรือโยกเล็กน้อย หลังใส่หนังยางเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นปกติ ไม่ต้องกังวล ถ้ามีอาการมากผิดปกติ ให้ติดต่อทันตแพทย์จัดฟันทันที

  • ที่ยกฟัน (Bite) มีทั้งสีฟ้า และสีเหมือนฟัน ทำหน้าที่ยกฟันให้สูงขึ้น เพื่อให้สามารถแก้ไขการสบฟันที่ผิดปกติได้ เช่น ฟันสบคร่อม ฟันสบลึก อาจทำให้การเคี้ยวอาหารยากขึ้นในช่วงแรกๆ ถ้าแตก หรือหลุด ควรรีบกลับไปพบทันตแพทย์ทันที
  • หมุดจัดฟัน (Mini screws) ใช้เป็นหลักยึดในการเกี่ยวยางในกรณีที่หลักยึดไม่เพียงพอ ทำภายใต้การใส่ยาชาเฉพาะที่ และจะเอาออกเมื่อจัดฟันเสร็จเรียบร้อย

รีเทนเนอร์

รีเทนเนอร์ (Retainer) เป็นเครื่องมือคงสภาพฟันหลังจัดฟันเสร็จ

เหตุผลที่ต้องใส่รีเทนเนอร์ เพื่อช่วยยึดฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการหลังจัดฟันเสร็จ เนื่องจากเหงือกและเนื้อเยื่อปริทันต์บริเวณที่ฟันเคลื่อนไปนั้นต้องการเวลาสำหรับการปรับตัวในตำแหน่งใหม่

หลังจากจัดฟันเสร็จ ฟันอาจอยู่ในตำแหน่งที่ยังไม่คงที่ ดังนั้นแรงจากกล้ามเนื้อรอบๆช่องปากอาจมีผลให้ฟันเคลื่อนกลับ ในผู้ป่วยที่ยังมีการเจริญเติบโตอยู่ อาจมีผลต่อความไม่คงสภาพหลังจากจัดฟัน

ระยะเวลาในการใส่รีเทนเนอร์

ขึ้นอยู่กับสภาพความผิดปกติของฟันก่อนจัดฟัน โดยส่วนใหญ่คนไข้จะต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลา ยกเว้น เวลารับประทานอาหารและแปรงฟัน เป็นเวลา 3-4 เดือน จากนั้นให้ใส่เฉพาะเวลากลางคืนหรือเวลานอนอีกประมาณ 12 เดือน ทั้งนี้แพทย์จัดฟันจะเป็นผู้ประเมินสภาพฟันและอธิบายให้ทราบหลังจัดฟันเสร็จ

ชนิดของรีเทนเนอร์

  • แบบถอดได้ คนไข้สามารถถอดเครื่องมือออกมาทำความสะอาด และถอดออกได้เป็นบางโอกาส แต่มีข้อควรระวังคือเครื่องมือมีโอกาสแตกหักเนื่องจากทำจากพลาสติกและลวด และมีโอกาสสูญหายได้บ่อย รีเทนเนอร์แบบถอดได้มี 2 แบบ คือ แบบพลาสติกมีลวด และแบบพลาสติใส
  • แบบติดแน่น เหมาะกับคนไข้ที่ไม่มีเวลา ไม่ต้องการให้เห็นสวดขณะใส่ หรือไม่ให้ความร่วมมือในการใส่รีเทนเนอร์แบบถอดได้ โดยรีเทนเนอร์แบบติดแน่นนี้จะมีลักษณะเป็นลวดยึดติดที่ด้านในของฟัน นิยมทำในฟันหน้าล่าง เนื่องจากเป็นบริเวณที่ฟันมีโอกาสคืนกลับสภาพเดิมสูง ข้อเสียคือ ทำความสะอาดยาก และคนไข้ต้องระมัดระวังในการเคี้ยวอาหารเนื่องจากเครื่องมีอากสหลุด หรือแตกหักได้

พร้อมสำหรับจัดฟันแล้วหรือยัง

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้คนไข้อาจจะกำลังมองหาคลินิกที่จะช่วยแก้ไขปัญหาในช่องปากของคนไข้โดยการมาองหาสถานที่จัดฟันใกล้บ้าน หรือมองหาจากแพทย์เฉพาะทาง

แน่นอนว่าที่คลินิกทันตกรรมสีวลีเรามีแพทย์เฉพาะทางในหลายๆ ด้าน พร้อมให้คำปรึกษา และทำความเข้าใจปัญหาของคนไข้มายาวนานกว่า 20 ปี สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับแอดมินได้เลย!

ขั้นตอนการจัดฟัน

ขั้นตอนการจัดฟันเบื้องต้นจะมีลักษณะคล้ายๆ กัน ดังนี้

ก่อนเริ่มการรักษาจัดฟัน

  1. ตรวจวางแผนการรักษากับทันตแพทย์จัดฟัน
  2. พิมพ์ปากเพื่อทำแบบโมเดลศึกษา เอกซเรย์จัดฟัน และเอกซเรย์
    ตรวจฟันผุด้านข้าง (Panoramic view, Lateral ceph, Bite-wing
    2 ข้าง และบางกรณีอาจต้องมี Posteroanterior ceph เพิ่มด้วย)
  3. เคลียร์ช่องปาก ขูดหินปูน อุดฟัน ผ่าฟันคุด หรืออื่นๆ ที่ต้องรักษาก่อนการ
    ใส่เครื่องมือจัดฟัน

ระหว่างรักษาด้วยการจัดฟัน

  1. ติดเครื่องมือจัดฟัน
  2. พบหมอจัดฟันทุก 4-6 สัปดาห์ กรณีจัดฟันแบบมีแบร็กเก็ต
  3. เอกซเรย์เพื่อตรวจเช็คการรักษาระหว่างการจัดฟัน แล้วแต่
    ดุลยพินิจแพทย์
  4. ควรขูดหินปูนและตรวจฟันผุทุก 6 เดือน

ภายหลังรักษาด้วยการจัดฟันเสร็จ

  1. เมื่อได้รับการถอดเครื่องมือแล้วจะต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอด
  2. เอกซเรย์หลังจัดฟันเพื่อเช็คผลการรักษา และเอกซเรย์
    ตรวจฟันผุด้านข้าง (Panoramic view, Lateral ceph, Bite-wing 2 ข้าง และบางกรณีอาจต้องมี Posteroanterior ceph เพิ่มด้วย)
  3. ขูดหินปูนหลังถอดเครื่องมือ
  4. ตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน

ระยะเวลาในการจัดฟัน

จัดฟันใช้เวลานานแค่ไหน โดยปรกติแล้วการจัดฟันโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี ถ้าตอบแค่นี้อาจจะยังไม่ทำให้หลายๆคนยังไม่หายคาใจ แล้วอะไรบ้างที่เป็นเหตุให้การจัดฟันช้าหรือเร็ว เรามาดูในรายละเอียดกันว่า องค์ประกอบที่มีผลต่อระยะเวลาในการจัดฟันนั้นมีอะไรบ้าง

สาเหตุที่จะทำให้การรักษาเสร็จช้าเร็ว ประกอบด้วย จากตัวคนไข้เองและจากทันตแพทย์ผู้ให้การรักษา

1. สาเหตุจากตัวคนไข้เอง

  • อายุของคนไข้

โดยปกติแล้วฟันจะเคลื่อนที่ได้เฉลี่ยประมาณ 1 m.m./เดือน ในเด็กจะมีการซ่อมสร้างกระดูกและการตอบสนองต่อการเคลื่อนฟันจะดีกว่า นอกจากนี้ยังเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่าในผู้ใหญ่

  • ความร่วมมือของคนไข้

ในมาทำการรักษาตามนัดหมาย หมอไม่สามารถทำการรักษาได้เลยหากคนไข้ไม่มาหา การจัดฟันนั้นเป็นการรักษาที่ต้องใช้เวลาในการรักษายาวนาน กว่าการรักษาฟันชนิดอื่นๆ

การไม่มาตามนัดหมายจะทำให้การรักษายืดเยื้อและยาวนานขึ้น ผลการรักษาที่ออกมาไม่ดี เท่าที่ควรจะเป็น เบื้องต้นที่ได้กล่าวว่าการรักษาโดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี

ถ้าไม่มาตามนัดหมายจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง
ฟันไม่ขยับ ฟันขยับไปในตำแหน่งที่ไม่ได้ต้องการ ทำให้ต้องเสียเวลาในการดึงกลับหรือบางครั้งหมอก็ไม่สามารถแก้ไขให้ กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่ดีเท่ากับการมาตามนัดหมายได้

  • ความซับซ้อนในการรักษาของแต่ละบุคคล
    การจัดฟันที่มีความยุ่งยากและซับซ้อน ร่างกายไม่ค่อยตอบสนองต่อการรักษาจะใช้เวลาในการรักษานานกว่าปกติ ซึ่งเคสเหล่านี้แม้คนไข้จะให้ความร่วมมือ มาปรับเครื่องมือสม่ำเสมอก็อาจจะยังใช้เวลาในการรักษามากกว่า 3-4 ปี ยิ่งถ้าไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการรักษาอีก การรักษาก็จะไม่สำเร็จ หรืออาจจะต้องหยุดการรักษาในที่สุด

2. ทันตแพทย์ผู้ให้การรักษา

หมอแต่ละคนมีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ไม่เท่ากัน การวางแผนการรักษาการเลือกเครื่องมือแต่ละชิ้นตลอดจนเทคนิกในการรักษาส่วนบุคคล ล้วนแต่มีผลต่อความสำเร็จและระยะเวลาในการจัดฟัน ปัจจุบันเราสามารถตรวจสอบรายชื่อทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันได้ ที่นี่

จัดฟันราคาเท่าไหร่

จัดฟันครั้งแรกราคาเท่าไหร่ จัดแบบไหนดี

จัดฟันแบบธรรมดา ไม่ซับซ้อน

ราคาเริ่มต้นที่ 38,000-46,000 บาท

  • ฟันซ้อนเกไม่มาก ไม่ต้องถอนฟัน
  • จัดฟันถอนฟันแบบง่าย
  • จัดฟันแบบติดแน่นในเด็ก (ถอนฟัน/ไม่ถอนฟัน)
  • เคสย้ายไม่ยาก (ไม่รวมค่าถอดเครื่องมือ ราคา 2,000 บาท)

จัดฟันแบบยากซับซ้อน

ราคาเริ่มต้นที่ 46,000-52,000 บาท

  • จัดฟันถอนฟันแบบชดเชยความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกขากรรไกร (Camouflage)
  • จัดฟันแบบติดแน่นรวมกับอุปกรณ์ขยายขากรรไกรบน (Rapid maxillary expansion and maxillary protraction) ไม่รวมค่า expander and facemask
  • มีการดึงฟันฝัง
  • จัดฟันเคลื่อนฟันคุดเพื่อแทนที่ฟันกรามที่เสียไป
  • จัดฟันย้ายเคสที่ยากซับซ้อน (ไม่รวมค่าถอดเครื่องมือ 2,000 บาท)

การแบ่งชำระ 3,400 บาท 5 ครั้ง ครั้งต่อไป ครั้งละ 1,500 บาท
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทันตแพทย์เป็นผู้ประเมินวินิจฉัยเท่านั้น

จัดฟันแบบระบบไม่รัดยาง (ดาม่อน) และระบบแบร็กเก็ตใส

ราคาเริ่มต้นที่ 65,000-85,000 บาท
การแบ่งชำระ 6,400 บาท 5 ครั้ง ครั้งต่อไป ครั้งละ 2,000 บาท
จัดฟันใส Invisalign เริ่มต้นที่ 104,000 บาท

การดูแลช่องปาก ระหว่างการจัดฟัน

วิธีแปรงฟัน ขณะจัดฟัน

  1. วางหัวแปรงทำมุม 45 องศากับขอบเหงือกขยับแปรงไปมาเบา ๆ แล้วปัดแปรงสีฟันลงสำหรับฟันบนปัดแปรงสีฟันขึ้นสำหรับฟันล่าง
  2. แปรงฟันด้านในแต่ละซีให้ทั่วถึงตามวิธีการข้อ 1
  3. แปรงบริเวณพื้นผิวฟันที่ใช้บดเคี้ยวแต่ละให้ครบทุกซี่
  4. ใช้ปลายขนแปรงสีฟันแปรงด้านหลังของฟันหน้าแต่ละซีทั้งฟันบนและฟันล่าง
  5. ใช้ขนแปรงสีฟันถูเบา ๆ บนลิ้นหรือใช้แปรงสีฟันที่ด้านบนหัวแปรงมีที่ทำความสะอาดกระพุ้งแก้มและลิ้นเพื่อขจัดคราบอาหารหรือมีฝ้าขาวติดอยู่เพื่อลมหายใจที่สะอาดสดชื่น

การใช้ไหมขัดฟัน

  1. ดึงไหมขัดฟันความยาวประมาณ 18 นิ้วพันอย่างหลวม ๆ รอบนิ้วกลางทั้งสองข้างโดยให้เหลือเส้นไหมที่ใช้ขัดฟันประมาณ 2 นิ้ว
  2. ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับเส้นไหมแล้วค่อยๆเลื่อนเส้นไหมลงระหว่างซอกฟันเบา ๆ ระวังอย่าให้บาดเหงือก
  3. โค้งไหมโอบรอบฟันแต่ละซี่เป็นรูปตัวซี “C” เลื่อนใหมขัดฟันขึ้นลงเบา ๆ ระหว่างซอกฟันและขอบเหงือกเลื่อนเส้นไหมจากนิ้วกลางหนึ่งไปยังอีกนิ้วกลางหนึ่งเพื่อใช้ไหมส่วนที่สะอาดขัดซอกฟันถัดไป

วิธีขจัดคราบหินปูน ขณะจัดฟัน

สาเหตุหลัก ๆ ก็มาจากการแปรงฟันไม่สะอาด ไม่ใช้ไหมขัดฟัน และการดื่มชาหรือกาแฟเป็นประจำ
วิธีขจัดคราบหินปูนด้วยตนเองคือ แปรงฟันให้สะอาดหลังมืออาหาร ใช้ไหมขัดฟัน ใช้ผลิตภัณฑ์บ้วนปากและ ไปหาทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูนทุก ๆ 6 เดือน

ระหว่างการจัดฟันกินอะไรได้บ้าง

อาหารและพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง

  • อาหารที่แข็ง เช่น ถั่วชนิดต่าง ๆ ก้อนน้ำแข็ง
  • อาหารเหนียว ๆ เช่นคาราเมลทอฟฟี ผลไม้แห้งหรือธัญพืชอัดแท่ง
  • กัดผลไม้ เช่น ผลแอปเปิ้ล โดยตรง (ควรหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนรับประทาน)
  • ไม่ควรกัดเล็บ กัดดินสอ
  • ไม่ควรดุนลิ้นเล่นหรือเขี่ยลวดจัดฟันเล่น
จัดฟันที่ไหนดี สีวลี

จัดฟันที่ไหนดี

การจัดฟัน คือ การแก้ปัญหาการเรียงตัวของฟันเช่น ฟันซ้อนเก ฟันสบลึก ฟันสบเปิด ฟันเหยิน ฟันห่าง
การจัดฟัน ควรทำโดยทันตแพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญด้านจัดฟันโดยตรง

เนื่องจากคนไข้จะต้องพบกับทันตแพทย์ในทุกๆเดือน และต้องทำการรักษาในระยะเวลาหลายปี

การเลือกสถานที่จัดฟันควรเลือกจากข้อมูลดังนี้

  1. ควรเลือกจากคลินิกที่มีทันตแพทย์เฉพาะทางด้านการรักษาโดยเฉพาะ เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพและตรงจุด
  2. ควรเลือกคลินิกที่สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และมีเครื่องมือทางทันตกรรมที่ถูกต้องตามหลักการแพทย์
  3. ควรเลือกคลินิกที่ใกล้บ้าน หรือเดินทางสะดวก เนื่องจากการรักษาโรคเหงือกนั้น บางรายต้องมาพบทันตแพทย์มากกว่า 1 ครั้ง จึงควรเลือกคลินิกที่สามารถเดินทางเข้ามาพบทันตแพทย์ได้สะดวก เพื่อความรวดเร็วในการเข้ารับบริการค่ะ

ซึ่งคลินิกทันตกรรมสีวลีมีประสบการณ์และเปิดให้บริการมายาวนานกว่า 20 ปี มีทันตแพทย์เฉพาะทางด้านจัดฟัน ที่ได้รับการ​​รับรองจากสมาคมทันตแพทย์จัดฟันโดยตรง

อ่านบทความเพิ่มเติม : จัดฟันที่ไหนดี? เทคนิคการเลือกคลินิกจัดฟัน ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจดัดฟัน

เครื่องมือทันสมัย

รีวิวการจัดฟัน

แก้ฟันบนยื่น จัดฟัน ถอนฟัน
ปากอูม เห็นเหงือกเยอะ จัดฟัน ผ่าตัดขากรรไกร

คำถามที่พบบ่อย

ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟัน นานไหม?

การจัดฟันจะใช้ระยะเวลา 1-2 ในการจัดตั้งแต่เริ่มต้นจนถอดเครื่องมือ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยากง่ายและการเคลื่อนฟันของตัวคนไข้และวินัยในการมาพบทันตแพทย์

จัดฟันเจ็บไหม กี่วันหายเจ็บ?

หากถามว่าจัดฟันเจ็บไหม จัดฟันครั้งแรกต้องบอกว่าเจ็บแน่นนอน แต่อยู่ในระดับที่ทนได้ เมื่อถึงขั้นตอนปรับเครื่องมือ ก็อาจรู้สึกเจ็บหรืออาจจะแค่รู้สึกตึง ๆ ในช่องปากได้ค่ะ

จัดฟันต้องถอนฟันไหม?

การถอนฟันก่อนจัดฟัน ขึ้นอยู่กับโครงสร้างฟันของแต่ละบุคคล ในคนไข้บางคนแพทย์จะให้ถอนฟันและบางคนก็ไม่ถอนเลยก็มี ขึ้นอยู่กับแผนการรักษาของทันตแพทย์ตรวจวินิจฉัย

จัดฟันแล้วฟันล้มทำอย่างไร?

เครื่องมือคงสภาพฟัน หรือ รีเทนเนอร์ (Retainer) คือ อุปกรณ์ที่ช่วยให้ฟันที่จัดใหม่ยังคงเรียงตัวสวยตามระเบียบ ป้องกันฟันล้ม หรือฟันเคลื่อนตัวหลังการจัดฟัน คนที่กำลังจัดฟันอยู่ หรือจัดฟันใกล้เสร็จแล้ว คงทราบว่าหลังจัดฟันเสร็จขั้นตอนต่อไปคือการใส่รีเทนเนอร์เพื่อให้ฟันเรียงสวยหลังจากที่เราจัดฟันเสร็จแล้ว

จัดฟันได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?

การจัดฟันทำได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดตั้งแต่ 10 ปี เพราะร่างกายกำลัลงเจริญเติบโต

สรุป

การจัดฟัน ควรทำโดยทันตแพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญด้านจัดฟันโดยตรง เนื่องจากคนไข้จะต้องพบกับทันตแพทย์ในทุกๆเดือน และต้องทำการรักษาในระยะเวลาหลายปี

รวมถึงควรทำการรักษาในคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ ซึ่งคลินิกทันตกรรมสีวลีมีประสบการณ์และเปิดให้บริการมายาวนานกว่า 20 ปี มีทันตแพทย์เฉพาะทางด้านจัดฟัน ที่ได้รับการ​​รับรองจากสมาคมทันตแพทย์จัดฟันโดยตรง