ข้อควรรู้ จัดฟันแบบโลหะ คืออะไร ดีไหม ราคา แตกต่างจากแบบอื่นอย่างไร

จัดฟันแบบโลหะ

หลายคนคงจะคุ้นเคยกับภาพการจัดฟันแบบมีเหล็กดัดอยู่ด้านหน้า เพราะนี่คือวิธีการจัดฟันแบบโลหะซึ่งเป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับคนที่ฟันไม่สวย แล้วอยากเพิ่มความมั่นใจให้กับรอยยิ้มของตัวเอง ด้วยการติดเครื่องมือจัดฟัน ซึ่งในปัจจุบันได้มีการพัฒนาขนาดของวัสดุที่ใช้ให้มีขนาดเล็กลง คุณภาพสูงขึ้น และให้ความรู้สึกใส่สบายมากขึ้น สามารถเปลี่ยนสีสันยาง (O-ring) ได้เรื่อยๆ จึงกลายเป็นอีกแฟชั่นหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความสนุกให้กับการจัดฟันได้

ว่าแต่การจัดฟันแบบโลหะนี้นอกจากจะมีประโยชน์ในเรื่องของการจัดเรียงตัวของฟัน และเป็นที่นิยมจากกระแสของแฟชั่นแล้ว ยังมีเรื่องอะไรอีกบ้างที่คุณต้องพิจารณาก่อนจะตัดสินใจเลือกจัดฟันในรูปแบบนี้ คลินิกสีวลีผู้เชี่ยวชาญด้านการทำทันตกรรมมีคำตอบมาให้คุณแล้ว ตามไปดูพร้อมๆ กันเลย

จัดฟันแบบโลหะ คืออะไร

จัดฟันแบบโลหะ คือ

จัดฟันโลหะ จัดฟันเหล็ก หรือ จัดฟันยางสี เป็นวิธีการจัดฟันที่เราพบเห็นกันอยู่บ่อยๆ เนื่องจากเป็นการจัดฟันที่ช่วยแก้ปัญหาฟันเก ฟันซ้อน ฟันห่าง การสบฟันไม่ดี และทำให้ฟันเรียงสวยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีราคาย่อมเยากว่าการจัดฟันประเภทอื่นๆ นอกจากนี้การจัดฟันแบบโลหะยังถือเป็นแฟชั่นที่คนทั่วไปนิยมทำกันด้วย ซึ่งคุณสามารถเลือกรูปแบบการจัดฟันได้ทั้งหมด 2 แบบ คือ

  • จัดฟันโลหะแบบรัดยาง (Metal Braces)

เป็นวิธีการจัดฟันแบบโลหะธรรมดา ด้วยการติดเครื่องมือแบบโลหะไว้ที่ผิวด้านหน้าของฟัน แล้วใส่ลวดผ่านร่อง Bracket จากนั้นใช้ยางโอริง (O-ring) ที่มีสีสันสดใสรัดที่ตัวเครื่องมือจัดฟัน ให้ติดแน่นกับลวดจัดฟัน แต่จะต้องมีการปรับเครื่องมือทุกๆ เดือน

  • จัดฟันแบบดามอน (Damon Braces)

เป็นการจัดฟันที่ไม่ต้องใส่ยางจัดฟัน เนื่องจากเครื่องมือจัดฟันแบบดามอนจะถูกออกแบบให้มีคลิปล็อคลวดจัดฟันอยู่ในตัวแบรคเก็ต ทำให้ฟันเคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งที่ทันตแพทย์กำหนดไว้ได้ง่าย และช่วยลดแรงกดที่เกิดจากยางจัดฟัน จึงทำให้รู้สึกเจ็บน้อยกว่าการจัดฟันโลหะแบบรัดยาง

การจัดฟันมีทั้งหมดกี่แบบ? อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

จัดฟันแบบโลหะต่างกับการจัดฟันแบบอื่นอย่างไร

จัดฟันแบบโลหะมีความแตกต่างจากการจัดฟันแบบอื่นโดยเฉพาะการจัดฟันแบบใส ในเรื่องของเครื่องมือที่ใช้ในการจัดฟัน ดังนี้

  • เครื่องมือจัดฟันแบบโลหะจะไม่สามารถถอดเครื่องมือออกได้ การทำความสะอาดช่องปากจึงทำได้ยากกว่า แต่เครื่องมือจัดฟันแบบใสจะสามารถถอดออกได้
  • เนื่องจากเครื่องมือจัดฟันแบบโลหะจะไม่สามารถถอดเครื่องมือออกได้จึงต้องระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหารเป็นพิเศษ แต่การจัดฟันแบบใสในขณะรับประทานอาหารสามารถถอดเครื่องมือออกก่อนได้ จึงสามารถกินได้อย่างใจต้องการ
  • ระยะเวลาการจัดฟันแบบโลหะจะใช้เวลาประมาณ 1-3 ปี ส่วนการจัดฟันแบบใสจะใช้เวลาแค่ 6 เดือน-2 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพฟันและโครงสร้างฟันของแต่ละบุคคล
  • เครื่องมือจัดฟันแบบใส เวลาสวมใส่แทบจะไม่สังเกตเห็นว่ากำลังใส่เครื่องมือจัดฟันอยู่ แต่การจัดฟันแบบโลหะจะสังเกตได้ชัดเจน
  • การจัดฟันแบบโลหะมีราคาถูกกว่าการจัดฟันแบบใส จึงเหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัด

นอกจากนี้ยังมีการจัดฟันแบบเซรามิก ที่มีลักษณะการจัดฟันเหมือนกับการจัดฟันแบบโลหะ แต่สีของอุปกรณ์จะคล้ายกับสีฟันและทำมาจากเซรามิก ซึ่งช่วยให้คนที่แพ้โลหะ หรือต้องการจัดฟันในราคาย่อมเยาลงมาจากการจัดฟันแบบใส สามารถจัดฟันในแบบที่คนไม่สังเกตเห็นได้ด้วย

ส่วนการจัดฟันแบบดามอน จะเป็นการจัดฟันที่ช่วยย่นระยะเวลาในการรักษา มีประสิทธิภาพสูง และอาจไม่ต้องถอนฟันแม้แต่ซี่เดียว ด้วยเทคโนโลยี Self-Ligating ที่ได้รับการรับรองทางทันตแพทย์แล้วว่าช่วยลดเวลาในการจัดฟันให้น้อยลงกว่าการจัดฟันแบบโลหะทั่วไป

จัดฟันแบบไหนดีที่สุด?

หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่า การจัดฟันแบบไหนดีที่สุด ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การจัดฟันในแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้น การที่จะเลือกว่าจะจัดฟันแบบไหนดี ก็อาจจะขึ้นอยู่กับความต้องการ งบประมาณ ระยะเวลาที่ต้องการใช้ในการจัดฟัน รวมถึงข้อจำกัดของแต่ละบุคคล เช่น

  • หากคุณเป็นนักเรียน นักศึกษาที่มีงบจำกัด แต่มีเวลาในการมาพบกับทันตแพทย์บ่อยครั้งได้ อาจจะเหมาะกับการจัดฟันแบบโลหะที่มีราคาไม่สูงแต่ใช้ระยะเวลาจัดฟันนาน และต้องเข้าพบทันตแพทย์เป็นประจำทุกเดือน
  • หากคุณเป็นคนที่มีงบประมาณขึ้นมาสักหน่อย ต้องการจัดฟันแบบที่ไม่มีคนสังเกตเห็นอาจจะเลือกเป็นการจัดฟันแบบเซรามิก หรือจัดฟันแบบดามอนก็ได้
  • หากคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเวลา ต้องการจัดฟันเสร็จไว มีงบประมาณมาก ต้องการไม่ให้คนสังเกตเห็น และต้องการจัดฟันด้วยอุปกรณ์แบบถอดได้ ก็จะเหมาะกับการจัดฟันแบบใสมากที่สุด

การเตรียมตัวก่อนจัดฟันแบบโลหะ

การเตรียมตัวก่อนการจัดฟันแบบโลหะ จะไม่ได้ต่างจากการจัดฟันแบบอื่นๆ เลยคือ

  1. สำรวจตนเองว่าพร้อมที่จะทำการจัดฟันหรือยัง โดยทำการดูถึงเรื่องค่าใช้จ่าย เวลา และเลือกคลินิกที่คุณสะดวกในการเดินทางไปบ่อยๆ เพราะหลังจากคุณทำการจัดฟันแบบโลหะแล้วจะต้องพบทันตแพทย์ทุกเดือน เป็นเวลาอย่างน้อย 1-3 ปี
  2. หลังจากทำการเลือกคลินิกที่ไว้วางใจได้เเล้ว เข้ามาพบทันตแพทย์จัดฟัน บอกเล่าปัญหา และความต้องการต่างๆ ให้ทันตแพทย์ทราบ เพื่อที่ทันตแพทย์ได้รู้ ความต้องการ ประวัติ รวมถึงการทำฟันที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ เพื่อออกแบบ และ วางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้องในขั้นตอนต่อไป
  3. ก่อนจัดฟันต้องมีการเตรียมปรึกษาทันตแพทย์ โดยทันตแพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยโครงสร้างฟัน ทำประวัติก่อนการจัดฟัน ได้แก่ พิมพ์ฟัน, การถ่ายรูปในช่องปาก, การ X-ray ประเมิน โครงสร้างใบหน้า, การ X-ray เช็คฟันผุ โดยจะทำการตรวจฟันผุด้านข้าง (Panoramic View, Lateral Ceph, Bite-wing 2 ข้าง และบางกรณีอาจต้องมี Posteroanterior Ceph เพิ่มด้วย)
  4. ทำการเคลียร์ช่องปาก เช่น ขูดหินปูน ถอนฟัน อุดฟัน ผ่าฟันคุด หรืออื่นๆ ที่ต้องรักษาก่อนการใส่เครื่องมือจัดฟันให้เรียบร้อย ในบางกรณีอาจจะต้องมีการผ่าตัดขากรรไกรร่วมกกับการจัดฟันด้วย หลังจากนั้นจะเข้าสู่การติดเครื่องมือจัดฟันต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง : [ข้อควรรู้] การผ่าตัดขากรรไกรร่วมกับการจัดฟัน คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ใช้เวลานานไหม

ขั้นตอนการจัดฟันแบบโลหะ

หลังจากทำการเคลียร์ช่องปากแล้วจะเข้าสู่การจัดฟัน โดยแพทย์จะทำการใส่เครื่องมือจัดฟันแบบโลหะ ตามขั้นตอน ดังนี้

  1. การขัดฟัน โดยจะใช้ผงขัดผสมน้ำ ขัดด้วยหัวขัดแปรงยางเพื่อให้ผิวฟันสะอาดเหมาะแก่การยึดติดเครื่องมือ หลังจากนั้นให้คนไข้บ้วนปาก
  2. ทากรดกัดฟัน โดยทันตแพทย์จัดฟันจะกั้นน้ำลาย และหยดกรดกัดฟัน บริเวณที่จะติดเครื่องมือเพื่อที่จะให้ผิวฟันมีความขรุขระเล็กน้อย ทิ้งไว้อย่างน้อยสิบห้าวินาทีแล้วล้างให้สะอาด หลังจากนั้นใช้ลมเป่าฟันให้แห้งสนิท
  3. ทาน้ำยาเชื่อมบนผิวฟัน น้ำยาจะเป็นตัวเชื่อมผิวฟันกับเครื่องมือ โดยผู้ช่วยทันตแพทย์จะฉายแสงด้วยเครื่องฉายแสงกำลังสูงให้น้ำยาแข็งตัว
  4. ติดแบรคเก็ต โดยผู้ช่วยทันตแพทย์จะจับแบรคเก็ตตามซี่ฟัน ทาน้ำยาเชื่อมและกาวเชื่อม ส่งให้ทันตแพทย์ และทันตแพทย์จะวางแบรคเก็ตบนฟัน ปรับมุมและตำแหน่งให้เหมาะสม แล้วฉายแสงรอบๆ อีกครั้ง
  5. ใส่ลวดจัดฟัน โดยครั้งแรกทันตแพทย์จะใส่ลวดที่นิ่มที่สุดให้ก่อน เพื่อให้ฟันเริ่มมีการรู้สึกตัวของการรับแรง ลดความเจ็บปวดลง ส่วนใหญ่ทันตแพทย์มักจะติดฟันบนให้ก่อนระยะหนึ่ง เช่น 2-3 เดือน เพื่อให้ผู้ป่วยปรับตัวกับเครื่องมือ แล้วจึงค่อยติดเครื่องมือล่างให้ในภายหลัง

หลังจากติดเครื่องมือจัดฟัน ทันตแพทย์จะนัดมาปรับเครื่องมือเป็นระยะๆ เพื่อปรับเครื่องมือและเปลี่ยน O’Ring ให้เหมาะสมตามแต่ละขั้นตอน โดยความถี่จะขึ้นอยู่กับปัญหาการสบฟันของคนไข้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการนัดพบทุกเดือน หรือ 4-6 สัปดาห์

การดูแล รักษาความสะอาด ระหว่างการจัดฟันแบบโลหะ

หลังจากติดเครื่องมือจัดฟันแบบโลหะแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องดูแลช่องปากให้สะอาดอย่างเคร่งครัด โดยคุณจะต้องปฏิบัติตัวตามที่ทันตแพทย์สั่ง ดังนี้

การปฏิบัติตัวหลังจัดฟันแบบโลหะ

  • ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจการเคลื่อนตัวของฟัน และเครื่องมือจัดฟันตามกำหนด หากละเลยจะทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการจัดฟันนานขึ้น และอาจทำให้เกิดปัญหาทางช่องปากเพิ่มขึ้นได้
  • ควรมาตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนทุกๆ 6 เดือน
  • แนะนำให้เลือกกินอาหารนิ่มๆ อาหารที่เคี้ยวง่าย เพื่อไม่ให้เหล็กจัดฟันเสียหาย เป็นการระมัดระวังฟันที่เพิ่งเริ่มจัดที่มีความอ่อนไหวง่าย การเลือกกินอาหารนิ่มจะช่วยลดการปวดฟันได้อีกด้วย เช่น ซุป เนื้อสัตว์ อ่อนๆ นุ่มๆ ไม่มีกระดูก ก๋วยเตี๋ยว ไข่ ขนมปังอ่อนๆ
  • หลีกเลี่ยงอาหารเหนียวๆ เพราะไม่ดีต่อเหล็กจัดฟัน เช่น ลูกอม หมากฝรั่ง

การทำความสะอาดช่องปากเมื่อจัดฟันแบบโลหะ

ในช่วงที่จัดฟันแบบโลหะ การรับประทานอาหารมักมีเศษอาหารติดฟันได้ง่าย และทำความสะอาดได้ยากขึ้น ดังนั้นควรใส่ใจในการทำความสะอาดให้มากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหากลิ่นปากและฟันผุ ดังนี้

  • เลือกใช้แปรงสีฟันสำหรับผู้จัดฟันโดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถทำความสะอาดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามเครื่องมือจัดฟันได้สะดวกขึ้น
  • แปรงฟันให้ถูกวิธีโดยวางแปรง 45 องศาให้ขนแปรงอยู่ระหว่างตัวฟันและขอบเหงือก แปรงเบาๆ ทีละซี่วนไปจนครบทุกด้าน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
  • ควรเลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ช่วยป้องกันฟันผุ
  • ใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟัน ในการทำความสะอาดซอกฟันหรือบริเวณที่แปรงสีฟันทั่วไปเข้าไม่ถึง โดยสามารถใช้ได้เลยหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังการจัดฟันแบบโลหะ

แน่นอนว่า ความสวยงามของฟันย่อมแลกมาด้วยการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่อาจเป็นผลข้างเคียงหลังจากการจัดฟันแบบโลหะได้ เช่น

  • ช่วงที่จัดฟันอยู่จะทำความสะอาดฟันยากกว่าปกติ ซึ่งอาจส่งผลทำให้มีกลิ่นปากและฟันผุได้
  • ช่วงแรกๆ หรือช่วงที่เปลี่ยนเครื่องมือใหม่ๆ อาจจะรู้สึกตึงหรือเจ็บปากจากการจัดฟันและช่วงการเคลื่อนของฟัน
  • การจัดฟันแบบโลหะจะใช้เวลาค่อนข้างนานประมาณ 1-3 ปี และคุณจำเป็นต้องเข้าพบทันตแพทย์ทุกเดือน
  • หลังจากทำการจัดฟันจะต้องใส่รีเทนเนอร์
  • รับประทานอาหารยากขึ้น ไม่สามารถกินอะไรที่แข็งหรือเหนียว ซึ่งเสี่ยงทำให้เครื่องมือจัดฟันอาจเสียหายหรือหลุดได้
  • มีโอกาสเป็นโรคเหงือก เช่น โรคเหงือกอักเสบ โรคปริทันต์อักเสบ (โรครำมะนาด) จากการทำความสะอาดช่องปากไม่ดีพอ

รีวิวการจัดฟันแบบโลหะ

หากใครสนใจที่จะจัดฟันแบบโลหะ แต่ไม่แน่ใจว่าจะเลือกที่ไหนดี แนะนำให้ดูทั้งความน่าเชื่อถือของคลินิก ความเชี่ยวชาญของทีมทันตแพทย์ รวมไปถึงเคสรีวิวการจัดฟันแบบโลหะที่ทำให้คุณเห็นถึงฝีมือและความเปลี่ยนแปลงของเคสก่อนหน้า เพื่อให้มั่นใจว่า คุณจะได้รับการดูแลจนถึงตอนถอดเครื่องมือออกอย่างแน่นอน หรือดูรีวิวการจัดฟันแบบโลหะที่ ‘คลินิกทันตกรรมสีวลี’ ได้ด้านล่างนี้

ราคาการจัดฟันแบบโลหะ

การจัดฟันแบบโลหะจะมีราคาที่ไม่สูงเท่ากับการจัดฟันในรูปแบบอื่นๆ โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 50,000 – 60,000 บาท ซึ่งคุณสามารถดูรายละเอียดของราคาการดัดฟันแบบโลหะ รวมถึงระบบผ่อนชำระสำหรับคนที่ไม่สะดวกจ่ายเงินสดของคลินิกทันตกรรมสีวลีได้ตามตารางด้านล่างนี้เลย

รายการ ราคา
การจัดฟันแบบโลหะ 50,000 – 60,000 บาท

คำถามที่พบบ่อย

จัดฟันแบบโลหะ ดีไหม?

สำหรับคนที่กำลังคิดว่า จะจัดฟันแบบโลหะ ดีไหม? เรื่องนี้อาจจะดูให้แน่ใจว่า คุณไม่มีปัญหากับการติดเครื่องมือจัดฟัน และต้องการที่จะจัดการกับปัญหาฟันเก ฟันห่าง ฟันซ้อน เรียงตัวสวยงาม เป็นระเบียบอย่างเหมาะสม ช่วยให้การสบฟันดีขึ้นในราคาที่ประหยัดกว่าการจัดฟันแบบประเภทอื่นๆ หรือไม่ รวมถึงคุณได้รับการประเมินมาแล้วว่า สามารถจัดฟันแบบโลหะได้ วิธีการจัดฟันประเภทนี้ก็อาจจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุณสามารถเก็บไว้พิจารณาเพื่อจัดฟันได้เช่นกัน

จัดฟันแบบโลหะ เจ็บไหม?

เนื่องจากเป็นการดัดให้ฟันมีการเคลื่อนที่ถูกต้อง หากถามว่าจัดฟันเจ็บไหม แน่นอนว่าจะต้องมีความรู้สึกตึงๆ ปากและเจ็บในช่วงจัดฟันและช่วงการเคลื่อนของฟัน หลายคนอาจจะกังวลว่า จะต้องทนปวดฟันกี่วัน กี่วันหายปวด

ปกติแล้วอาการปวดจะดีขึ้นภายใน 3-5 วัน โดยช่วงที่รู้สึกปวดสามารถทานยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดได้และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงอาการปวดมากขึ้น รวมถึงทำให้เครื่องมือจัดฟันมีโอกาสหลุดได้ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่แข็งและเหนียวในตอนจัดฟันจะดีที่สุด

ครอบฟัน แล้วจัดฟันแบบโลหะได้ไหม?

แม้จะใส่ที่ครอบฟันอยู่ก็สามารถจัดฟันแบบโลหะได้ แต่มีข้อควรระวัง ดังนี้

  • ฟันที่ใส่ครอบฟันไปแล้ว ถ้าจะจัดฟันก็สามารถเคลื่อนฟันเหมือนฟันปกติได้ แต่ในการติดเครื่องมือจัดฟันที่ครอบฟันจะใช้น้ำยาคนละชนิดกับน้ำยาที่ติดเครื่องมือจัดฟันกับฟันธรรมชาติ ซึ่งขั้นตอนในการติดเครื่องมือจัดฟันกับครอบฟันก็จะยุ่งยากกว่าปกติ และเครื่องมืออาจหลุดง่ายด้วย
  • หลังจัดฟันเสร็จแล้ว ถ้าครอบฟันเสียหายอาจจะได้ทำครอบฟันใหม่ เนื่องจากการแกะเครื่องมือจัดฟันออกก็อาจจะทำให้ครอบฟันเสียหายได้ เช่น มีบางส่วนหลุดออกมา หรือครอบฟันเป็นรอยหรือผิวไม่เงามันเหมือนเดิม
  • ในบางกรณีในฟันที่ใส่ครอบฟันไปแล้ว หากทันตแพทย์วางแผนจะไม่เคลื่อนฟันซี่นี้ ก็อาจจะข้ามไปไม่ติดเครื่องมือจัดฟันที่ฟันซี่ที่ใส่ครอบนั้นเลยก็ได้ หรือในกรณีที่ยังไม่ได้ใส่ครอบฟันจริง ทันตแพทย์อาจจะพิจารณาทำเป็นครอบฟันชั่วคราวแล้วติดเครื่องมือจัดฟันที่ครอบฟันชั่วคราวแทน

สรุป

ก่อนการตัดสินใจจัดฟันแบบโลหะ คุณควรศึกษาและทำความเข้าใจรายละเอียดต่างๆ รวมถึงเปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจจัดฟันแบบโลหะจากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ หรือทางที่ดีที่สุดคือการเข้ารับคำแนะนำจากทันตแพทย์ ซึ่งคลินิกทันตกรรมสีวลีของเรายินดีให้คำปรึกษาผู้ที่มีความต้องการจัดฟันฟรี สนใจติดต่อเราได้ที่ Line และ Facebook