อยากจัดฟัน แต่ไม่อยากติดเหล็กให้เสียความมั่นใจ แนะนำวิธีการจัดฟันแบบใส Invisalign หนึ่งในนวัตกรรมการดัดฟันแบบ Invisalign ที่ได้รับความนิยมจากทั้งเหล่าดารา Influencer หรือคนทำงานที่ต้องการจัดฟันแบบถอดได้ ไร้เหล็กดัดฟันมาคอยกวนใจและช่วยขจัดปัญหาเหล็กเกี่ยวเหงือก เศษอาหารติดเหล็ก ซึ่งเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวัน แถมการจัดฟันแบบอินวิสไลน์ยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องฟันอย่างฟันเก ฟันซ้อนได้จริงเช่นเดียวกับการติดเครื่องมือดัดฟันอีกด้วย
อยากรู้จักวิธีการจัดฟันแบบใส Invisalign ว่าคืออะไร ทำอย่างไร จะเหมาะกับคุณหรือไม่ และมีข้อควรรู้อะไรที่ต้องศึกษาก่อนทำการดัดฟัน Invisalign บ้าง ตามไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเลยดีกว่า!
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
จัดฟันแบบใส คืออะไร
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักกับวิธีการจัดฟันแบบอินวิสไลน์ (Invisalign) วิธีการดัดฟันประเภทนี้คือ การจัดฟันแบบใสด้วยเครื่องมือจัดฟันพอลิเมอร์บางๆ ใสๆ ซึ่งถูกออกแบบมาให้เหมาะกับรูปฟันของคนไข้เฉพาะบุคคลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยเครื่องมือนี้จะนำมาใส่ครอบฟันเพื่อปรับโครงสร้าง ตำแหน่ง และการเรียงตัวของฟัน แทนการใส่เครื่องจัดฟันแบบโลหะ จึงทำให้การแปรงฟันและการทานอาหาร ของคุณไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป
นอกจากนี้ เครื่องมือจัดฟัน Invisalign แทบจะไม่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งจะช่วยเคลื่อนฟันให้เข้าที่อย่างช้าๆ คนส่วนใหญ่แทบจะไม่สังเกตเห็นว่ากำลังสวมอุปกรณ์อยู่ อีกทั้งยังสามารถถอดและใส่เครื่องมือจัดฟันแบบใส Invisalign ได้ด้วยตัวเองอีกด้วย
เทคโนโลยีจัดฟันแบบใส
การจัดฟันแบบใส (Invisalign) เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนอยากดัดฟันแบบไม่ต้องติดเครื่องมือเหล็กดัดฟันให้ยุ่งยาก เพราะการจัดฟัน Invisalign จะทำเพียงใส่วัสดุที่เป็นพลาสติกใสที่แทบมองไม่เห็นอุปกรณ์จัดฟัน ซึ่งพลาสติกที่ว่านี้ เป็นเทคโนโลยี SmartTrack ที่ยืดหยุ่นได้ดี โค้งรับกับขอบเหงือกแบบไม่ต้องกลัวหลุดระหว่างใส่ แถมยังปลอดภัยไม่มีสารก่อมะเร็งอีกด้วย
เครื่องสแกนฟัน iTero คืออะไร
เนื่องจากการดัดฟันแบบใส Invisalign เป็นการจัดฟันรูปแบบใหม่ที่ทันสมัย จึงมีการนำเทคโนโลยีที่เรียกว่า เครื่องสแกนฟัน iTero เข้ามาใช้งานในการสแกนฟันแบบ 3 มิติ ทำให้เห็นลักษณะของฟันภายในช่องปากทั้งบนและล่าง เพื่อให้ทันตแพทย์มองเห็นถึงปัญหาของฟันได้ชัดเจน และตัวเครื่องยังสามารถเก็บภาพฟัน ขนาดและรูปร่างฟันเสมือนขนาดจริงเอาไว้ให้ทันตแพทย์เข้ามาขยับฟันตามแผนการรักษาที่วางไว้ได้
Clincheck คืออะไร
Clincheck เป็นแบบจำลองของการเคลื่อนที่ของฟันซึ่งแสดงแผนการรักษาเป็น 3D ตามการวางแผนของทันตแพทย์ ที่ช่วยทำให้คุณมองเห็นการเคลื่อนที่ของฟันในช่วงเวลาต่างๆ และเห็นลักษณะการเรียงตัวของฟัน ในตอนที่จัดฟันสำเร็จเรียบร้อยแล้ว
Attachment คืออะไร
หลังจากได้รับเครื่องมือที่เป็นแผ่นใสที่สั่งผลิตจากอเมริกาแล้ว ทันตแพทย์จะติดตั้งอุปกรณ์สีเหมือนฟันที่เรียกว่า Attachment ลงบนฟัน โดย Attachment จะช่วยทำให้ฟันเคลื่อนไปในทิศทางต่างๆ ที่ต้องการได้ด้วย ซึ่งในแต่ละเคสจะมีการออกแบบ Attachment ที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละปัญหาที่ต้องการแก้ไขด้วย
จัดฟันแบบใส Invisalign เหมาะกับใครบ้าง
การจัดฟันใส Invisalign สามารถแก้ไขปัญหาฟันสบลึก (Deep bites), ฟันเกฟันซ้อน (Crowded teeth), ฟันเหยิน (Overbite) ได้ รวมถึงปัญหาการกัดในรูปแบบอื่นๆ อาทิ ฟันสบเปิด (Open bites), ฟันล่างยื่น (Underbites), ฟันสบคร่อม (Crossbites) ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันแบบใสอินวิสไลน์ได้ โดยทันตแพทย์จะทำการประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมให้ตามแต่ละบุคคลให้ ดังนั้น คนที่มีปัญหาเรื่องฟันในข้างต้นสามารถใช้การดัดฟันแบบใส Invisalign ในการจัดฟันได้เลย
นอกจากนี้การจัดฟันแบบใส Invisalign ยังเหมาะกับทุกเพศทุกวัย และทุกช่วงอายุ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ที่จัดฟันเพื่อให้ฟันเรียงตัวสวย เพิ่มความมั่นใจก็สามารถเลือกใช้วิธีนี้เพื่อจัดฟันได้ แถมยังสามารถทำให้ข้อจำกัดของอาชีพบางอาชีพ ไม่เป็นอุปสรรคต่อการจัดฟัน เช่น อาชีพแอร์โฮสเตส ดารา นักแสดง นักข่าว เป็นต้น
จัดฟันแบบใส Invisalign แตกต่างจากจัดฟันอย่างอื่นอย่างไร
เมื่อเปรียบเทียบการจัดฟันในแบบต่างๆ การจัดฟันแบบใสอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงเมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบอื่น เช่น การจัดฟันแบบโลหะ และการจัดฟันแบบดามอน แต่ถ้ามองในแง่ของความคุ้มค่าและข้อดีของการจัดฟันแบบใส Invisalign จุดที่ชัดเจนมากที่สุดเลยก็คือ Invisalign มองไม่เห็นเครื่องมือ ยิ้มได้สบายเหมือนเดิม ไม่ระคายเคืองจากเครื่องมือ Invisalign ที่แนบไปกับผิวฟัน แถมยังถอดออกมาทำความสะอาดได้ จึงช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นปาก ฟันผุหรือปัญหาเหงือกอักเสบที่มักเกิดขึ้นได้ง่ายในขณะจัดฟันได้ด้วย
นอกจากนี้การดัดฟันแบบใสยังสามารถรู้ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟันได้ค่อนข้างแน่นอน (ประมาณ 1-1 ปีครึ่ง) แถมยังไม่ต้องเข้าพบทันตแพทย์บ่อยเหมือนกับการจัดฟันประเภทอื่นๆ ซึ่งก็เหมาะมากๆ กับคนที่ไม่มีเวลา อยากจัดฟันให้สวยด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และต้องการจัดฟันแบบไม่ต้องติดเหล็กให้เกิดแผลภายในช่องปาก
จัดฟันแบบใส มีกี่ประเภท
ปกติแล้วการจัดฟันแบบใสจะมีทั้งหมด 2 ประเภท ดังนี้
จัดฟันแบบใส Invisalign Lite
จัดฟันแบบใส Invisalign Lite เป็นวิธีการดัดฟันใสที่เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาฟันซ้อนเกไม่มากนัก และใช้เครื่องมือจัดฟันใสตั้งแต่ 8-14 คู่ ใช้เวลาในการจัดฟันประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี ราคาส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 104,000-124,000 บาท
จัดฟันแบบใส Invisalign Full
จัดฟันแบบใส Invisalign Full เป็นวิธีการดัดฟันใสที่เหมาะสำหรับคนที่มีฟันซ้อนเกค่อนข้างมาก มีปัญหา ฟันล่างคร่อมฟันบน, ฟันหน้าห่าง, ฟันห่างแล้วอยากจัดฟันแบบใส และยังไม่เคยจัดฟันมาก่อน การจัดฟันใสแบบ Invisalign Full จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องมือจัดฟันใสตั้งแต่ 15 คู่ ขึ้นไป และใช้เวลาในการจัดฟันประมาณ 1-2 ปี ฟันถึงจะเข้าที่ โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ 184,000-204,000 บาท
จัดฟันแบบใสประเภทไหนเป็นที่นิยม
การจัดฟันแบบใส Invisalign ถือเป็นการดัดฟันแบบใสที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับวัยรุ่น คนดัง และบุคคลทั่วไป เพราะมีความแตกต่างจากการดัดฟันประเภทอื่นๆ ตรงที่เป็นการจัดฟันที่มองไม่เห็นเครื่องมือจัดฟัน มีการออกแบบด้วยระบบคอมพิวเตอร์แบบ 3D และทำให้มองเห็นภาพสุดท้ายของการจัดฟันได้อย่างชัดเจน ในขอบเขตเวลาไม่นาน อีกทั้งยังดูแลรักษาความสะอาดได้ง่ายกว่าการจัดฟันประเภทอื่นอีกด้วย
การเตรียมตัวก่อนจัดฟันแบบใส
ก่อนจะเข้ารับบริการดัดฟันแบบใสด้วยการติดเครื่องมือ Invisalign จะมีวิธีการเตรียมตัวง่ายๆ ตาม Checklist ดังต่อไปนี้
- เข้าพบกับทันตแพทย์ เพื่อประเมินช่องปาก และวางแผนแนวทางการรักษาว่า ควรจะปรับรูปฟันแบบไหน เคลื่อนตำแหน่งฟันอย่างไร ตำแหน่งฟันหลังจัดฟันเสร็จจะเป็นอย่างไร จะใช้เวลาจัดฟันเท่าไหร่ และเหมาะที่จะจัดฟันแบบใสหรือไม่
- หากมีปัญหาสุขภาพในช่องปาก เช่น ฟันผุ หินปูน ฟันคุด จำเป็นต้องเคลียร์ช่องปากก่อน หลังจากนั้นทำการสแกนฟัน 3 มิติด้วยเครื่องสแกนชนิด iTero
- แพทย์จะทำการดูแผนการรักษาแบบ 3D animation หรือที่เรียกว่า Clincheck เพื่อประเมินแนวทางการเคลื่อนฟัน จำนวนชุดแผ่นใส และผลการรักษา จากนั้นยืนยัน Clincheck เพื่อเข้าสู่การผลิตชิ้นงานแผ่นใสต่อไป
บทความอ่านประกอบ : ข้อควรรู้ ! การเตรียมตัวจัดฟัน ดันฟันครั้งแรก ราคาเท่าไหร่ มีขั้นตอนอย่างไร 2021
ขั้นตอนการจัดฟันแบบใส
หลังจากที่ทันตแพทย์ทำการตรวจสอบสภาพภายในช่องปาก ทำการพิมพ์ปาก ถ่ายรูป X-ray ทำการเคลียร์ช่องปาก รวมไปถึงสแกน iTero แสดงภาพเป็น 3D และดู Clincheck เพื่อประเมินแนวทางการเคลื่อนฟัน และดูการปรับรูปแบบของฟันในทุกๆ ระยะ จนถึงผลลัพธ์สุดท้ายของการจัดฟันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะดูตัวรอยยิ้มก่อนส่งทำเครื่องมือ
จากนั้นทันตแพทย์จะทำการนัดแนะแผนการรักษา โดยทันตแพทย์จะทำการติดปุ่ม Attachment บนฟัน ซึ่งจะเป็นปุ่มเล็กๆ สีเหมือนฟัน เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพในการเคลื่อนฟัน และคนไข้จะได้ใส่แผ่นใส Invisalign ซึ่งคนไข้จะต้องสวมทุกวัน วันละ 20-22 ชั่วโมง เเละเปลี่ยนทุก 2 สัปดาห์โดยประมาณ
ส่วนการดูแลหลังจากการจัดฟันแบบใสจะต้องมาพบทันตแพทย์ทุก 2-3 เดือนเพื่อติดตามผลเป็นระยะ และรับชุดเครื่องมือจัดฟันแบบใสชุดถัดไป รวมถึงทำการขูดหินปูนและทำความสะอาดฟันทุก 5-6 เดือน เพื่อรักษาสุขภาพในช่องปากให้ปราศจากแบคทีเรียอยู่เสมอ
การดูแลหลังจัดฟันแบบใส
หลังจากทำการจัดฟันแบบใสเรียบร้อยแล้ว แนะนำให้ปฏิบัติตัว ดังนี้
การปฏิบัติตัวหลังจัดฟันแบบใส
- หมั่นพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ก็เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันให้มีสุขอนามัยที่ดี รวมถึงเข้ารับการปรับแต่งอุปกรณ์ Invisalign ให้เข้ากับรูปฟันมากขึ้น
- แนะนำให้ใส่เครื่องมือวันละ 22 ชั่วโมง และถอดออกเฉพาะตอนรับประทานอาหารและแปรงฟันเท่านั้น เพื่อให้ฟันเคลื่อนตามตำแหน่งที่วางไว้ได้เร็วและเป็นไปตามระยะเวลาการจัดฟันแบบใสที่กำหนดไว้นั่นเอง
- ควรถอดออกเวลารับประทานอาหาร แล้วแปรงฟันให้สะอาดก่อนใส่ทุกครั้ง
- หลังจากจัดฟันแบบใสเสร็จ จะต้องใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน (Retainer) เพื่อคงรักษาแบบฟันเช่นเดียวกับการดัดฟันประเภทอื่นๆ
การทำความสะอาดช่องปากเมื่อจัดฟันแบบใส
- รักษาความสะอาดช่องปากและฟัน ด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หรือแปรงฟันหลังมืออาหาร ด้วยวิธีการแปรงฟันที่ถูกต้อง
- ใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร เพื่อทำความสะอาดฟัน เเละขจัดเศษอาหารที่ติดตามซอกฟันที่การแปรงเข้าไม่ถึง
- ไม่เเนะนำให้ใช้แปรงสีฟันหรือยาสีฟันขัดอุปกรณ์จัดฟัน Invisalign เพราะอาจทำให้เกิดรอยบนอุปกรณ์ได้ แนะนำให้ใช้น้ำที่อุณหภูมิปกติกับสบู่ น้ำยาล้างจาน หรือน้ำยาล้างขวดนมเด็กในการทำความสะอาด
- หากเป็นคนที่กินจุบจิบบ่อย หลังรับประทานอาหารเเล้ว แนะนำให้ทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนกลับเข้าไป
หลังจัดฟันแบบใสทานอะไรได้บ้าง
จริงๆ แล้วหลังจากจัดฟันแบบใสสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ เพราะเครื่องมือจัดฟันแบบใสสามารถถอดออกได้ จึงไม่ต้องจำเป็นต้องคอยระวังไม่ให้ตัวเครื่องมือหลุด แต่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลในขณะใส่แผ่นใส Invisalign เพราะน้ำตาลจะทำให้ฟันผุได้ง่าย ทางที่ดีควรดื่มน้ำเปล่าเป็นหลักจะดีที่สุด
นอกจากนี้ ตัวเครื่องมือทำจากพลาสติกที่ไม่ทนรับกับแรงบดเคี้ยวได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือขบกัดอะไรที่แข็งมากๆ ในขณะใส่เครื่องมืออยู่
ข้อดี ข้อเสียของการจัดฟันแบบใส
สำหรับใครที่ลังเลว่า จะจัดฟันแบบใสดีไหม ลองดูข้อดี – ข้อเสียเปรียบเทียบความคุ้มค่าดูก่อนได้ ดังนี้
ข้อดีของการจัดฟันแบบใส
- ไม่ลำบากเรื่องการดูแล เพราะทำความสะอาดง่าย หมดปัญหาเรื่องเศษอาหารติดเหล็กดัดฟันคอยกวนใจไปได้เลย
- มองแล้วสวยงาม ไม่รู้ว่ากำลังทำการจัดฟันอยู่ จึงเสริมสร้างความมั่นใจได้ดี
- ไม่สร้างความรู้สึกระคายเคืองภายในช่องปากจากการโดนเกี่ยวด้วยเหล็กจัดฟัน
- รับประทานอาหารได้สะดวก ไม่ต้องกังวลเรื่องเหล็กหลุดขณะเคี้ยว
- ไม่ต้องเข้าพบทันตแพทย์บ่อยๆ จึงเหมาะสำหรับคนไม่มีเวลา
- เจ็บน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการใส่เหล็กจัดฟัน แต่อาจจะมีความรู้สึกตึงๆ เจ็บๆ เล็กน้อยเมื่อต้องเปลี่ยนแผ่นใสในแต่ละชุด
- คำนวณได้ว่าจะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ และใช้อุปกรณ์กี่ชิ้นตลอดระยะเวลาการจัดฟัน
ข้อเสียของการจัดฟันแบบใส
- ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าการจัดฟันแบบปกติ เพราะขั้นตอนการผลิตเครื่องมือจัดฟัน Invisalign มีความซับซ้อนจากการออกแบบตามรูปฟันของคนไข้
- การจัดฟันแบบใส เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันเล็กน้อย – ปานกลาง (ในกรณีที่มีเขี้ยวงอกขึ้นบนเหงือก หรือเรียกว่าฟันเขี้ยวบนคุด อาจจะต้องรับการรักษาโดยการจัดฟันรูปแบบอื่นๆ แทน)
- มีโอกาสทำหายได้ง่าย เนื่องจากมีลักษณะใส เเละต้องถอดออกก่อนการรับประทานอาหารหรือทำความสะอาดฟัน
- เพราะฟันจะเคลื่อนเมื่อใส่เครื่องมือไว้เท่านั้น ดังนั้นจึงควรใส่เครื่องมือ 22 ชั่วโมง/วัน และสามารถถอดออกได้เฉพาะตอนรับประทานอาหาร และตอนแปรงฟันเท่านั้น
จัดฟันแบบใสยี่ห้อไหนดี
นอกเหนือจากการจัดฟันใส (Clear Aligner) ในยี่ห้อ Invisalign แล้ว การจัดฟันแบบใสยังมีให้เลือกด้วยกันอีกมากมายหลากหลายยี่ห้อ ถ้าหากรอยยิ้มของคุณต้องการการเปลี่ยนแปลงที่ดี แนะนำให้ศึกษารายละเอียดของแต่ละยี่ห้อให้ดีก่อนเข้ารับการบริการ ซึ่งในที่นี้เราจะขอแนะนำยี่ห้อที่เป็นที่นิยมในไทย และอธิบายรายละเอียดของแต่ละยี่ห้อให้ได้ทราบกัน
จัดฟันใส Zenyum
สำหรับใครที่ลังเลว่า จะจัดฟัน Zenyum ดีไหม ลองอ่านข้อมูลนี้เปรียบเทียบไปพร้อมๆ กันเลย
การจัดฟันใสด้วยยี่ห้อ Zenyum ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่สัญชาติสิงคโปร์ ใช้เทคโนโลยีสแกนฟัน 3 มิติ ให้เหมาะแก่คนไข้แต่ละคนเช่นเดียวกันกับของ Invisalign แต่ Zenyum จะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกและเข้าถึงได้มากกว่า เพราะราคานี้ครอบคลุมจนครบการรักษาไม่ว่าจะต้องใช้เครื่องมือกี่ชิ้นก็ตาม
ส่วนการแก้ไขฟันนั้น Zenyum จะแก้ไขการเรียงฟัน เน้นไปที่ฟันด้านหน้าโดยเฉพาะ 8-10 ซี่ ด้านหน้า จึงเหมาะกับการแก้ปัญหาการจัดเรียงฟันแบบง่ายถึงปานกลาง หากคุณไม่ค่อยมีปัญหาในการสบฟันมาก หรือเคยจัดฟันมาแล้ว รวมถึงไม่สะดวกไปพบทันตแพทย์บ่อยๆ (เข้าพบแพทย์เพียง 3 ครั้งเท่านั้น) ก็เหมาะมากที่จะเลือกการจัดฟันใสแบบ Zenyum มากๆ เลยล่ะ
จัดฟันใส Giko
Clear Aligner (GIKO JAPAN) เป็นการจัดฟันใสจากประเทศญี่ปุ่น โดยใช้เครื่องมือจัดฟันเป็นพลาสติกใส ไร้เหล็กไร้สี สั่งผลิตเครื่องมือจัดฟันแบบใสจากแล็ปในประเทศไทย และคนไข้จะได้พิมพ์ฟันเฉลี่ยเดือนละประมาณ 1 ครั้ง และผลิตอุปกรณ์จัดฟันเป็นรายครั้งตามสภาพฟันล่าสุด ทำให้ได้อุปกรณ์จัดฟันใสที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลามากที่สุด
แต่การจัดฟันใส GIKO จะเหมาะกับคนที่มีปัญหาฟันเล็กน้อยไม่มาก และมีค่าใช้จ่ายจะขึ้นกับปัญหาฟันของแต่ละบุคคลว่าจะทำต้องทั้งหมดกี่เซ็ต ราคาโดยประมาณ เซ็ตละ 9,000 บาทเท่านั้น
จัดฟันใส Crystal Smile
การจัดฟันใส Crystal Smile กับ Invisalign มีความคล้ายกันคือ จะได้รับแผนการรักษา 3D ที่ออกแบบโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และได้รับเครื่องมือจัดฟันที่ออกแบบมาให้เฉพาะในแต่ละบุคคล เครื่องมือมีความใส คนทั่วไปจะไม่สังเกตเห็นว่าทำการจัดฟันอยู่ และคนไข้สามารถถอดเครื่องมือออกได้ รวมถึงมีแผนการรักษา 2 แบบ ได้แก่
- Crystal Smile Moderate เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันซ้อนเก อาจเคยจัดฟันมาก่อนหรือไม่เคยจัดมาก่อน โดยใช้เครื่องมือตั้งแต่ 11-20 คู่ ระยะเวลาประมาณ 1 ปี
- Crystal Smile Comprehensive เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันซ้อนเกค่อนข้างมาก หรือมีความซับซ้อน อาจเป็นผู้ที่ไม่เคยจัดฟันมาก่อน จำนวนชิ้นงานตั้งแต่ 21 คู่ ระยะเวลา 1-3 ปี
จัดฟันใสแบบเกาหลี Aline
จัดฟันใสเกาหลีที่กำลังมาแรงมากในประเทศเกาหลี ญี่ปุ่นและประเทศไทย คือยี่ห้อ Aline ซึ่งผลิตจากพลาสติกที่ปราศจากสาร BPA โดยเป็นอุปกรณ์ใส ถอดได้ และมีราคาถูกกว่าแบรนด์อื่น 60% ส่วนกระบวนการจัดฟันก็ง่ายๆ ทำได้ใน 3 ขั้นตอน คือ
- ขั้นตอนที่ 1 ทำการสแกนฟันแบบ 3 มิติจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- ขั้นตอนที่ 2 รับแผนการรักษาที่เป็นรูปภาพและวิดีโอ โดยทีมทันตแพทย์จัดฟันที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี
- ขั้นตอนที่ 3 อุปกรณ์จัดฟันจะถูกจัดส่งไปถึงหน้าบ้านเลย
จัดฟันแบบใสที่ไหนดี
สำหรับคนที่ตัดสินใจแล้วว่า จะจัดฟันใสแบบ Invisalign แต่ไม่รู้ว่าจะจัดฟันแบบใสที่ไหนดี เนื่องจากปัจจุบันมีคลินิกทันตกรรมให้บริการการจัดฟันใสมากมายที่คุณสามารถเลือกเข้ารับบริการได้ แต่เพื่อผลลัพธ์การรักษาออกมาดีที่สุด และสามารถจัดฟันเสร็จในเวลาที่รวดเร็ว จึงควรเลือกจัดฟันแบบใส Invisalign กับคลินิกที่ได้รับมาตรฐานการรับรอง พร้อมกับได้รับการดูแลด้วยทีมทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มีประสบการณ์ด้านการจัดฟันแบบใส เพราะทันตแพทย์ทั่วไปย่อมไม่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางการจัดฟันโดยตรง ก็จะช่วยทำให้คุณวางใจและคลายความกังวลในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการจัดฟันแบบใสได้
นอกจากนี้ควรเป็นคลินิกที่มีการใช้เครื่องมือที่ทันสมัย สะอาด และปลอดภัย เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อจากเครื่องมือที่ไม่สะอาดอย่าง คลินิกทันตกรรมสีวลี (Sivalee Dental Clinic) ที่นี่พร้อมบริการการจัดฟันที่ครบวงจร รวมทั้งการจัดฟันแบบใสที่ตอบโจทย์ได้ดีสำหรับคนที่กำลังคิดว่าจะจัดฟันแบบใสที่ไหนดี โดยเรานำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้มาตรฐานระดับโลกมาช่วยในทุกขั้นตอนของการรักษา ตั้งแต่การตรวจ วินิจฉัย และวางแผนการรักษา เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รอยยิ้มที่สวยงามจากการดัดฟันแบบใสกับเราอย่างแน่นอน
ราคาจัดฟันแบบใส
จัดฟันใส Invisalign มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท โดยสามารถดูราคาแบบละเอียดของประเภทการจัดฟันแบบใสแต่ละประเภทได้ตามตารางด้านล่างนี้
คำถามที่พบบ่อย
จัดฟันแบบใสต้องถอนฟันไหม?
การจัดฟันแบบใสจะต้องถอนฟันออกหรือไม่นั้นจะขึ้นอยู่กับลักษณะของฟันในแต่ละบุคคล ในกรณีที่ไม่มีช่องว่างให้เคลื่อนฟันจะต้องมีการถอนฟันร่วมด้วย ซึ่งถ้าหากคนไข้มีปัญหาฟันซ้อน ฟันเกมากๆ ก็จำเป็นต้องมีการถอนฟันร่วมด้วย แต่ถ้าฟันซ้อนเกเพียงเล็กน้อยอาจจะไม่ต้องถอนฟัน ซึ่งทันตแพทย์ผู้ดูแลจะเป็นผู้พิจารณาแผนการรักษา รวมถึงแจ้งให้คนไข้ทราบรายละเอียดทั้งหมดด้วยตัวเอง
จัดฟันเซรามิคใสกับจัดฟันแบบใสต่างกันอย่างไร?
การจัดฟันเซรามิคใสจะคล้ายกันกับการจัดฟันแบบโลหะ แต่จะต่างกันตรงที่เครื่องมือที่ใช้ยึดติดฟัน (Bracket) ที่มีสีเหมือนฟันหรือเป็นเซรามิคใส ส่วนการจัดฟันแบบใส Invisalign จะเป็นเครื่องมือจัดฟันที่สามารถถอดเครื่องมือออกได้เมื่อต้องการ ไม่จำเป็นต้องติดเครื่องมือเหมือนกับการดัดฟันแบบเซรามิคใส และมีความใสแทบมองไม่เห็นด้วยเช่นกัน
จัดฟันแบบใสต้องใส่รีเทนเนอร์ไหม?
ไม่ว่าจะเลือกวิธีการจัดฟันประเภทไหนก็จำเป็นต้องใส่รีเทนเนอร์ ทั้งนี้ก็เพื่อคงสภาพของฟันเอาไว้เหมือนกันกับตอนที่จัดฟัน เพื่อให้ฟันเคลื่อนไปตามทิศทางที่ต้องการและไม่กลับคืนสภาพก่อนดัดฟันอีก
จัดฟันแบบใส เจ็บไหม
หลายคนอยากจัดฟันแต่กลัวเจ็บ และมักมีความกังวลว่าจัดฟันเจ็บไหม การจัดฟันแบบใส Invisalign ถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการจัดฟันที่เหมาะกับคุณ เนื่องจากจะรู้สึกเจ็บน้อยมาก เมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบโลหะ และแทบไม่มีอาการระคายเคืองในปาก หรือเหงือกบวมแดงเลย แต่อาจจะรู้สึกเจ็บๆ ตึงๆ บ้างหลังใส่เครื่องมือชุดใหม่ 1-2 วันแรกที่มีการใส่เครื่องมืออินวิสไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะเครื่องมือกำลังทำงานเคลื่อนฟันของคุณไปตามทิศทางที่วางไว้นั่นเอง
อายุเท่าไหร่ถึงจัดฟันแบบใสได้
จัดฟันแบบใสเริ่มที่อายุเท่าไหร่ดี? ถือเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย โดยเฉพาะคุณพ่อ คุณแม่ที่อยากให้น้องๆ จัดฟันแบบใส Invisalign แต่ไม่แน่ใจว่าจะดัดฟันแบบ Invisalign ได้เมื่ออายุเท่าไหร่?
ต้องบอกเลยว่า การดัดฟันแบบใสสามารถทำได้ตั้งแต่ในวัยเด็กที่มีฟันในลักษณะผสม เพื่อแก้ไขความผิดปกติเบื้องต้น เช่น ฟันล่างคร่อมฟันบน คือช่วงอายุถึง 7 ปี หรือจะรอให้ฟันแท้ขึ้นครบในช่วงวัยรุ่นตอนต้น (ประมาณ 12 ปี) ซึ่งก็จะช่วยแก้ไขการเรียงตัวของฟัน และความผิดปกติของการสบฟันได้
ส่วนในวัยผู้ใหญ่หากต้องการจัดฟันแบบใส นอกจากจะแก้ไขปัญหาเรื่องการเรียงตัว การสบของฟันแล้วยังเอื้อให้การรักษาอื่นๆ สามารถทำได้ด้วย เช่น การตั้งฟันล้มเพื่อใส่ฟัน เป็นต้น
จัดฟัน Invisalign มีผลกับการพูดมั้ย
ปกติแล้วจะมีผลต่อการพูดเล็กน้อยหลังจากทำการจัดฟันแบบใส แต่หลังจากสามารถปรับตัวเข้ากับการดัดฟันด้วยเครื่องมือ Invisalign ได้แล้วก็จะไม่ได้รับผลกระทบเรื่องการออกเสียงอีก
สรุป
แม้การจัดฟันแบบใส Invisalign จะเป็นวิธีการดัดฟันแบบถอดและใส่เครื่องมือเองได้ตามต้องการ แต่ก็ควรจะปรึกษาและทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ซึ่งถ้าหากคุณไม่รู้ว่าจะจัดฟันแบบใสดีหรือไม่ อยากจะพูดคุยหรือปรึกษากับทันตแพทย์เพื่อให้แน่ใจ คลินิกทันตกรรมสีวลีของเรามีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการจัดฟันแบบใส Invisalign โดยเฉพาะ และเปิดให้บริการมายาวนานกว่า 20 ปี ตลอดจนมีเครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ทันสมัยพร้อมให้บริการแก่คนไข้ทุกท่าน
ดังนั้น เราจึงพร้อมให้คำปรึกษากับคุณได้แบบฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงติดต่อเรามาเลยที่ Line และ Facebook