‘การใส่รีเทนเนอร์’ เป็นข้อเท็จจริงอีกหนึ่งอย่างที่หลายคนลืม และมักคิดว่า หลังจากจัดฟันเสร็จแล้วจะได้ใช้ชีวิตแบบสะดวก แปรงฟันสบาย กินอะไรก็ได้แบบที่ต้องการ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ช่วงเวลาของการดูแลรักษาฟันด้วยการใส่รีเทนเนอร์เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น แถมคุณยังจะต้องอยู่กับเครื่องมือชิ้นนี้ไปอีกนานแสนนาน (อาจจะมากกว่าการจัดฟันมาตลอดหลายปีเสียด้วยซ้ำ)
แล้วทำไมหลังจากจัดฟันต้องใส่รีเทนเนอร์? จะไม่ใส่รีเทนเนอร์ได้ไหม? นี่อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัยอยู่ในใจ หรือถ้าต้องใส่ควรเลือกแบบไหน? ดูแลยังไงบ้าง? บทความนี้เรามีคำตอบจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาฝากกัน
รีเทนเนอร์ คืออะไร
รีเทนเนอร์ (Retainer) คือ อุปกรณ์ที่ต้องใส่หลังจากจัดฟัน เป็นเครื่องมือคงสภาพฟัน เพื่อไม่ให้ฟันหลังจากที่ทำการจัดฟันมาแล้วเคลื่อนตัวกลับไปสู่ตำแหน่งเดิมก่อนที่จะทำการจัดฟันได้ง่ายๆ หรือเคลื่อนตัวจนมีสภาพที่ผิดแปลกไป หรือที่เรียกว่า ‘ฟันล้ม’ นั่นเอง
ใครบ้างที่ต้องใช้รีเทนเนอร์
คนที่จำเป็นต้องใช้รีเทนเนอร์เลยก็คือ คนไข้ที่ผ่านการจัดฟันมาเรียบร้อยแล้ว และทำการถอดเครื่องมือจัดฟันออก โดยไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันรูปแบบไหนก็ตาม หลังจากนั้นจะต้องทำการใส่รีเทนเนอร์ เพื่อคงสภาพฟันให้เรียงตัวสวยงาม ไม่เคลื่อนกลับไปยังตำแหน่งก่อนจัดฟัน ดังนั้น ทุกคนจะต้องใส่รีเทนเนอร์เพื่อป้องกันฟันเคลื่อนเอาไว้ตามคำแนะนำของทันตแพทย์
บทความอ่านประกอบ : จัดฟันมีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร ราคาเท่าไหร่ เลือกแบบไหนเหมาะกับคุณ 2021
ไม่จัดฟันใส่รีเทนเนอร์ได้ไหม?
หากไม่ได้ทำการจัดฟันก็ไม่ควรจะทำการใส่รีเทนเนอร์ เพราะรีเทนเนอร์ไม่ได้ทำหน้าที่เดียวกันกับอุปกรณ์จัดฟัน เป็นเพียงเครื่องมือคงสภาพฟัน การใส่รีเทนเนอร์ไว้เฉยๆ จึงไม่ได้มีประโยชน์หรือทำให้ฟันเรียงตัวสวยขึ้น อีกทั้งยังมีผลเสียทำให้เกิดโรคเหงือก เป็นแผลในช่องปาก หากทำความสะอาดไม่ดีพอก็อาจจะทำให้เกิดโรคฟันผุตามมาได้
รีเทนเนอร์ มีกี่แบบ
ในปัจจุบันนี้มีรูปแบบรีเทนเนอร์ให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย แต่ก็อาจจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์ร่วมด้วยว่า คุณจะเหมาะกับรีเทนเนอร์ประเภทใด ซึ่งปกติแล้วรีเทนเนอร์ที่คนนิยมใช้ส่วนใหญ่จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่ รีเทนเนอร์แบบลวด และ รีเทนเนอร์แบบใส
และยังมีรีเทนเนอร์บางประเภทที่เลือกใช้ได้ในบางกรณี เช่น รีเทนเนอร์แบบติดแน่น รีเทนเนอร์แบบโลหะ ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักประเภทของรีเทนเนอร์ทั้งหมด พร้อมบอกข้อดี – ข้อเสียให้ทราบกัน
รีเทนเนอร์แบบลวด
รีเทนเนอร์แบบลวด เป็นรีเทนเนอร์แบบถอดได้ (Removable Hawley Wire Retainers) ทำจากอะคริลิกหรือพลาสติกมีรูปร่างพอดีกับเพดานปากและตามแนวฟันด้านในของคนไข้ ด้านหน้าเป็นลวดโลหะสำหรับครอบซี่ฟัน เพื่อป้องกันฟันเคลื่อนตัว
ข้อดีของรีเทนเนอร์แบบลวด
- มีอายุการใช้งานยาวนาน เพราะทนทาน ไม่เสียหายง่าย
- ไม่ค่อยมีน้ำลายขังภายใน จึงใส่สบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องใส่อุปกรณ์แล้วฟันผุ
- สามารถซ่อมแซม หรือปรับแก้ไขได้ หากชำรุด คับแน่นหรือหลวมมากเกินไป
- ฟันบนและฟันล่างสัมผัสกับรีเทนเนอร์ประเภทนี้อย่างเป็นธรรมชาติ
- สามารถเลือกสีและลายได้ จึงเหมาะกับสายแฟชั่น
ข้อเสียของรีเทนเนอร์แบบลวด
- เวลาใส่แล้วจะเห็นลวดอยู่ในปาก อาจทำให้รู้สึกไม่มั่นใจได้
- ลวดอาจจะสร้างความระคายเคืองให้กับเหงือกและกระพุ้งแก้มได้
- อาจสร้างความรู้สึกรำคาญจากการที่ต้องใส่ฐานพลาสติกคลุมเพดานปากไว้ตลอดเวลา
- ส่งผลกระทบต่อการพูด อาจทำให้พูดไม่ชัดในบางราย
รีเทนเนอร์แบบโลหะ
รีเทนเนอร์แบบโลหะ (All Metal Retainer) จะทำจากวัสดุโลหะล้วน ดัดแปลงมาจากฐานฟันปลอม ทำให้สามารถคลุมรูปปากและฟันของคนไข้ได้อย่างพอดี อีกทั้งเวลาใส่ไม่จำเป็นต้องถอดเข้า – ถอดออกอีกด้วย
ข้อดีของรีเทนเนอร์แบบโลหะ
- ค่อนข้างใส่สบาย เพราะชิ้นเล็ก น้ำหนักเบา และบาง
- มีความแข็งแรงทนทาน ไม่บิด หัก หรือแตกง่าย
- สามารถใส่รับประทานอาหารเป็นครั้งคราวได้โดยไม่ต้องถอด
- สามารถทำความสะอาดได้ง่าย
- สามารถเลือกใส่ยางหรือเชนได้ เพื่อความสวยงาม โดยไม่ส่งผลต่อการเคลื่อนตัวของฟัน
ข้อเสียของรีเทนเนอร์แบบโลหะ
- มีราคาค่อนข้างสูงกว่ารีเทนเนอร์ประเภทอื่น
- ไม่เหมาะจะใช้เป็นรีเทนเนอร์ชิ้นแรกหลังจากทำการดัดฟันเสร็จ
- ใช้เวลาทำนานประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งในระหว่างนั้นฟันอาจเกิดการเคลื่อนตัวได้
- อาจต้องทำการปรับแก้หลายครั้งจนกว่าจะพอดี
- อาจต้องทำการกรอเนื้อฟันธรรมชาติ เพื่อให้สามารถใส่ได้ตลอดเวลาแม้กระทั่งตอนเคี้ยวอาหาร
รีเทนเนอร์แบบใส
รีเทนเนอร์แบบใส (Removable Clear Plastic Retainers) เป็นรีเทนเนอร์ที่ทำมาจากพลาสติกหรือโพลียูรีเทนจะมีรูปทรงเดียวกับฟันของคนไข้ ล้อมรอบฟันทั้งด้านนอกและด้านใน โดยใช้กรรมวิธีขึ้นรูปด้วยความร้อนและใส่วัสดุลงไปในแม่พิมพ์ฟันให้พอดีกับตำแหน่งฟันใหม่
ข้อดีของรีเทนเนอร์ใส
- หากไม่สังเกตก็แทบไม่รู้ว่ากำลังใส่รีเทนเนอร์อยู่ จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่ากำลังใส่รีเทนเนอร์
- สวมใส่สบาย ไม่ขัดขวางการกลืนน้ำลายหรือทำให้พูดไม่ชัดเหมือนกับรีเทนเนอร์ประเภทอื่น
ข้อเสียของรีเทนเนอร์ใส
- ดูแลและทำความสะอาดยากกว่ารีเทนเนอร์แบบลวด โดยอาจจะเปลี่ยนสีได้จากอาหารหรือเครื่องดื่ม
- มักมีปัญหาน้ำลายขังในรีเทนเนอร์ ซึ่งอาจทำให้เกิดฟันผุตามมาได้
- ไม่สามารถซ่อมแซมได้หากเกิดการแตกหรือบิ่น
- อายุการใช้งานสั้นกว่ารีเทนเนอร์ประเภทอื่น
รีเทนเนอร์แบบติดแน่น
รีเทนเนอร์แบบติดแน่น (Permanent Retainers, Bonded Retainers) จะมีลักษณะเป็นลวดแข็งดัดโค้งติดเอาไว้ด้านในของฟันล่าง เนื่องจากเป็นตำแหน่งฟันที่มีโอกาสจะเคลื่อนที่ไปจากตำแหน่งที่จัดเอาไว้ได้ง่าย โดยรีเทนเนอร์ประเภทนี้จะไม่สามารถถอดออกเองได้ ยกเว้นให้ทันตแพทย์ที่ทำการจัดฟันเป็นผู้ถอดออกให้
ข้อดีของรีเทนเนอร์แบบติดแน่น
- หมดปัญหาเรื่องการลืมรีเทนเนอร์ เพราะเป็นรีเทนเนอร์ติดแน่นจึงต้องใส่อยู่ตลอดเวลา
- ไม่มีใครมองเห็นว่ากำลังใส่รีเทนเนอร์อยู่ เพราะตัวรีเทนเนอร์ติดอยู่ด้านในของฟัน
- มีความทนทาน ใช้งานได้นาน
ข้อเสียของรีเทนเนอร์แบบติดแน่น
- ทำความสะอาดยาก มีโอกาสเกิดหินปูนเกาะสะสมมากกว่ารีเทนเนอร์ชนิดอื่น ๆ
- เศษอาหารมักเข้าไปติด หากทำความสะอาดไม่ดีก็จะนำไปสู่โรคฟันผุ
- ลวดอาจทำให้รู้สึกระคายเคืองที่บริเวณลิ้นได้
ระยะเวลาในการใส่รีเทนเนอร์
สำหรับระยะเวลาในการใส่รีเทนเนอร์จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ซึ่งจะเป็นไปตามคำแนะนำของทันตแพทย์ผู้ดูแล แต่ในช่วงแรกๆ จำเป็นอย่างมากที่ต้องทำการใส่รีเทนเนอร์ทุกวัน เพราะสภาพกระดูกและเหงือกหุ้มฟันต้องใช้เวลาในการปรับสภาพเข้ากับตำแหน่งใหม่ หลังจากนั้นทันตแพทย์จะเป็นคนให้คำแนะนำในการลดระยะเวลาการใส่รีเทนเนอร์ลงเอง ห้ามทำการลดเวลาในการใส่ลงไปเองเด็ดขาด
ปัญหาจากการใส่รีเทนเนอร์
หากทำการใส่รีเทนเนอร์แล้วดูแลรักษาสุขภาพภายในช่องปากได้ไม่ดีพอ แน่นอนว่า ต้องส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเหงือกและฟัน เช่น เป็นโรคฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ ปริทันต์อักเสบ หรือปัญหาที่เกิดง่ายที่สุดเลยก็คือ การเกิดคราบหินปูน และก่อให้เกิดกลิ่นปากตามมาได้ง่าย
นอกจากนี้การใส่รีเทนเนอร์บางชนิด เช่น รีเทนเนอร์แบบลวด อาจจะก่อให้เกิดแผลในปาก เนื่องจากรู้สึกระคายเคืองจากตัวลวด ซึ่งสร้างความเจ็บปวดเรื้อรังให้กับผู้ใส่รีเทนเนอร์ได้
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้หลายคนไม่อยากที่จะใส่รีเทนเนอร์ พอละเลยไปนานๆ ก็ก่อให้เกิดอาการฟันเคลื่อนตำแหน่ง ฟันล้ม ฟันบิด ฟันผิดรูป จนสุดท้ายก็ใส่รีเทนเนอร์เพื่อช่วยพยุงฟันไม่ได้ และก็ต้องกลับไปทำการจัดฟันรอบสองในที่สุด
การใส่รีเทนเนอร์ที่ถูกวิธี
สำหรับใครที่ใส่รีเทนเนอร์ครั้งแรก หรือมักมีปัญหาใส่รีเทนเนอร์ไม่ลง มาดูวิธีการใส่รีเทนเนอร์ที่ถูกต้อง ดังนี้
การใส่รีเทนเนอร์แบบลวด
- จัดวางตำแหน่งรีเทนเนอร์ให้ถูกต้อง โดยหันตัวฐานพลาสติกที่ต้องใส่เข้าไปบริเวณเพดานปากเอาไว้ข้างใน และตัวลวดเอาไว้ด้านนอกของฟัน
- ปกติแล้วรีเทนเนอร์จะมีทั้งหมด 2 ชิ้นสำหรับใส่ด้านบนและด้านล่าง การดูว่าชิ้นไหนใส่ตรงไหน ให้หันส่วนโค้งตัว U ชี้ออกไปทางด้านนอกปาก จะมองเห็นลักษณะของการโค้งที่ชัดเจน
- หลังจากนั้นให้ทำการใส่รีเทนเนอร์โดยการกดให้รีเทนเนอร์ล็อกเข้ากับตัวฟัน ตอนใส่อาจจะได้ยินเสียงดังคลิก นั่นแสดงว่าใส่ได้พอดี
- หากไม่แน่ใจว่าใส่แล้วพอดีหรือไม่ให้ทำการกดด้านในของปากบริเวณฐานของรีเทนเนอร์ เพื่อตรวจดูความเรียบร้อย หากรีเทนเนอร์ล็อกเข้ากับสภาพของฟันแล้วรู้สึกว่าเจ็บ แน่น หรือว่าหลวมเกินไป ควรเข้าพบกับทันตแพทย์เพื่อปรับขนาดของรีเทนเนอร์ให้พอดีมากขึ้น
การใส่รีเทนเนอร์แบบใส
- ตัวรีเทนเนอร์แบบใส่จะเป็นพลาสติกใสบาง ที่ออกแบบมาให้พอดีกับสภาพฟัน โดยคนไข้จะต้องใส่รีเทนเนอร์ครอบฟันทั้งด้านบนและด้านล่าง
- วิธีการใส่คือ ให้หันด้านโค้งรูปตัว U ออกจากปาก และวางรีเทนเนอร์ให้ขนานกับตัวฟันพอดี หลังจากนั้นให้กดรีเทนเนอร์ให้เข้าล็อกตามแนวฟันทั้งบนและล่าง
- หากทำถูกวิธีและถูกด้าน คุณจะสามารถสวมรีเทนเนอร์ลงบนฟันได้พอดี และตัวรีเทนเนอร์จะไม่สามารถขยับไปไหนมาไหนได้
วิธีดูเเลรักษารีเทนเนอร์
เนื่องจากรีเทนเนอร์เป็นอุปกรณ์ที่ต้องสวมใส่อยู่ภายในช่องปากตลอดทั้งวัน ดังนั้น การทำความสะอาด รวมถึงหมั่นดูแลรีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ก็จะช่วยทำให้รีเทนเนอร์มีอายุการใช้งานที่ยืนยาวมากขึ้นได้ ซึ่งทันตแพทย์ก็มีคำแนะนำให้กับผู้ใช้งานรีเทนเนอร์ ดังต่อไปนี้
- หมั่นทำความสะอาดรีเทนเนอร์ด้วยการใช้แปรงสีฟัน โดยนำรีเทนเนอร์แช่ในน้ำยาบ้วนปากหรือน้ำสะอาดแล้วใช้แปรงสีฟันแปรงลงบนรีเทนเนอร์ทุกวัน หลังจากนั้นล้างให้สะอาด เช็ดให้แห้ง และเก็บเข้ากล่องรีเทนเนอร์
- ควรทำความสะอาดกล่องรีเทนเนอร์ด้วยเช่นกัน โดยใช้น้ำอุ่นผสมกับสบู่อ่อนๆ ล้างทำความสะอาด
- เก็บรีเทนเนอร์ให้เหมาะสม ห่างจากมือเด็ก และห่างจากสัตว์เลี้ยง
- ควรเปลี่ยนรีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ในระยะเวลาที่ทันตแพทย์กำหนด
ข้อควรระวังในการใช้รีเทนเนอร์
- ไม่ควรแช่รีเทนเนอร์ในน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น เพราะอาจทำให้รีเทนเนอร์เกิดการผิดรูปได้
- หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดรีเทนเนอร์ด้วยน้ำยาที่มีส่วนผสมของสารเคมี เช่น น้ำยาบ้วนปาก น้ำยาทำความสะอาดฟันปลอม หากต้องใช้จริงๆ แนะนำให้ผสมน้ำเพื่อให้เจือจางก่อนทุกครั้ง
- ไม่ควรรีเทนเนอร์ทิ้งไว้กระดาษทิชชู่ หรือผ้าเช็ดปากเพราะอาจจะทำให้ลืมหรือหยิบทิ้งได้
- หากรีเทนเนอร์ผิดรูป หรือเกิดคราบฝังแน่น อย่าฝืนใส่ต่อ ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อเปลี่ยนอันใหม่
ค่าทำรีเทนเนอร์ ราคาเท่าไหร่
ราคาของรีเทนเนอร์อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสถานที่ วัสดุ ราคารีเทนเนอร์เริ่มต้นที่ 2,000 บาท
คำถามที่พบบ่อย
ทำไมต้องใส่รีเทนเนอร์หลังจัดฟัน
สาเหตุที่ต้องใส่ก็เพราะรีเทนเนอร์ทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ในการคงสภาพการเรียงตัวของฟันให้อยู่เหมือนกับตอนที่ทำการจัดฟันอยู่ทั้งฟันบนและฟันล่าง หากทำการใส่ตลอดเวลาตามคำแนะนำของทันตแพทย์ (จะถอดก็ต่อเมื่อทำการรับประทานอาหารหรือแปรงฟัน) ก็จะช่วยป้องกันฟันเคลื่อนไปจากตำแหน่งที่จัดฟันไว้ไม่ให้ฟันเคลื่อนผิดรูปได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้รีเทนเนอร์ยังช่วยให้ฟันสบกันระหว่างการนอน และยังช่วยแก้อาการลิ้นยื่นเข้าออกช่องปากตลอดเวลาได้อีกด้วย
ใส่รีเทนเนอร์นานเเค่ไหน
หลังจากทำการถอดเครื่องมือจัดฟันออกแล้ว ควรใส่รีเทนเนอร์เอาไว้ตลอดเวลา ยกเว้นเฉพาะตอนรับประทานอาหารจึงจะถอดได้ ซึ่งจะใช้เวลาในการใส่แบบนี้ไปประมาณ 1-2 ปี และหลังจากที่ฟันเริ่มเข้าที่ ก็จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์ว่า ควรใส่รีเทนเนอร์ในความถี่ที่เท่าไหร่ ถึงจะสามารถคงสภาพการเรียงตัวของฟันเอาไว้ได้ เช่น อาจใส่เฉพาะตอนนอน 3-5 คืนต่อสัปดาห์ เป็นต้น
ถ้าไม่ใส่รีเทนเนอร์ เป็นอะไรไหม อันตรายรึเปล่า
หากไม่ใส่รีเทนเนอร์เป็นระยะเวลานาน ฟันก็จะเกิดการเคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งก่อนทำการดัดฟัน อาจจะเกิดอาการฟันล้ม ฟันบิดเบี้ยวผิดรูป ซึ่งถ้าอยากจะทำให้ฟันกลับมาเรียงตัวสวยใหม่ก็ต้องกลับไปทำการจัดฟันรอบสอง ซึ่งก็ต้องเสียทั้งเงินและเวลาอีกครั้ง ทางที่ดีที่สุดก็ควรที่จะใส่เอาไว้ตลอดเวลา เพื่อรักษาสภาพฟันสวยๆ ให้คงอยู่กับคุณตลอดไป
รีเทนเนอร์หายทำอย่างไร
หากคุณทำรีเทนเนอร์หายแนะนำให้รีบไปพบทันตแพทย์ให้เร็วที่สุด อย่าปล่อยไว้นาน ไม่เช่นนั้นฟันของคุณจะเกิดการเคลื่อนตัวกลับไปยังตำแหน่งก่อนจัดฟันหรือเกิดอาการฟันล้มได้ ดังนั้น ถ้ารีเทนเนอร์เกิดหายจริง ต้องแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบทันที เพื่อจะได้ทำรีเทนเนอร์ใหม่ใส่ได้ทันท่วงทีด้วย
ข้อสรุปเรื่องรีเทนเนอร์
ถึงแม้ว่าจะทำการจัดฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณก็ยังต้องดูแลให้ฟันยังคงสภาพเดิมอยู่ด้วยการใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลา ห้ามละเลยการใส่ เพราะอาจจะส่งผลต่อการเคลื่อนตัวของฟันได้
ส่วนวิธีการดูแลรีเทนเนอร์ก็ควรจะใส่ใจในการทำความสะอาดและทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อทำให้รีเทนเนอร์ยังคงทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์คงสภาพของฟันที่มีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเข้าพบทันตแพทย์บ่อยๆ เพื่อทำการปรับแก้ หรือต้องมานั่งรักษาปัญหาฟันผุ โรคเหงือกจากการใส่รีเทนเนอร์ตามมา