ฟันเหลือง ฟันไม่ขาว ดูแล้วไม่สดใส ทำเอาหมดความมั่นใจ ไม่กล้ายิ้มให้ใครเห็น…ใครที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาเรื่องสีของฟัน และกำลังมองหาวิธีการแก้ไขอยู่ วันนี้ ทันตกรรมสีวลี ของเรานำเทคนิคทางทันตกรรมที่ช่วยทำให้ฟันของคุณกลับมาขาว แก้ไขปัญหาฟันเหลือง ซึ่งช่วยให้คุณกลับมาเผยรอยยิ้มได้อย่างมั่นใจได้ นั่นก็คือ การฟอกสีฟัน หรือ การฟอกฟันขาว รับรองว่า ช่วยกู้สถานการณ์ฟันกลับมาขาวขึ้นได้อย่างแน่นอน
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ
ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว คืออะไร
ฟอกสีฟัน (Teeth Whitening) คือ วิธีการฟอกฟันขาวที่ช่วยเปลี่ยนฟันจากสีหมองคล้ำ เหลือง ดูไม่สดใสให้กลับมาขาวด้วยน้ำยาฟอกฟัน หรือผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน รวมไปถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ เช่น การฟอกสีฟันด้วยระบบเลเซอร์ หรือไฟ LED ชนิดพิเศษ นิยมเรียกว่าไฟ Cool Light เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วช่วยกู้สภาพสีฟันให้กลับมาขาว และช่วยทำให้มั่นใจในรอยยิ้มมากขึ้นอีกด้วย
กระบวนการฟอกสีฟันที่ช่วยทำให้ฟันขาวจริง
สำหรับคนที่สงสัยว่า ฟอกสีฟัน ขาวขึ้นจริงไหม ลองมาดูกระบวนการฟอกฟันขาว ซึ่งช่วยทำให้ฟันขาวขึ้นกันสักนิด ซึ่งปกติการฟอกฟันขาวโดยทันตแพทย์จะใช้น้ำยาฟอกสีฟัน และกระตุ้นการแตกตัวของน้ำยาฟอกสีฟันด้วยระบบแสง Cool Light LED หรือเลเซอร์ ทำให้โมเลกุลของออกซิเจน แทรกซึมผ่านชั้นผิวเคลือบฟัน แล้วเข้าไปปรับผลึกเม็ดสีในชั้นเนื้อฟัน และขจัดเม็ดสีในเนื้อฟันโดยเฉพาะสีเหลือง ดังนั้นเม็ดสีจึงค่อยๆจางลงทำให้ฟันเราขาวขึ้น ส่วนมากมักเห็นผลหลังจากฟอกเสร็จได้ทันที
ฟอกสีฟัน มีกี่แบบ แบบไหนดีที่สุด
การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ที่นิยมทำกันจะมีด้วยกันทั้งหมด 2 แบบ ซึ่งคุณสามารถเลือกเข้ารับบริการตามความเหมาะสมได้เลย ดังนี้
การฟอกสีฟันด้วยแสงเย็น Cool Light
เป็นวิธีการฟอกสีฟันโดยการใช้แสง LED ฉายลงบนฟันที่ทาน้ำยาฟอกสีฟัน แสงจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของน้ำยาฟอกสีฟัน ให้เม็ดสีหนาทึบของฟันแตกตัว ทำให้ฟันดูขาวกระจ่างขึ้น มีข้อดีคือสามารถขจัดคราบฝังลึกบนผิวฟันได้รวดเร็ว ปลอดภัย เห็นผลชัดเจน มีราคาถูก และใช้เวลาในการทำเพียง 30-45 นาทีเท่านั้น วิธีนี้จึงเหมาะกับคนเวลาน้อย ไม่อยากฟอกสีฟันหลายครั้ง และต้องการฟอกสีฟันด้วยวิธีการที่มีความปลอดภัยสูง
การฟอกสีฟันที่บ้าน (Home Bleaching)
เป็นวิธีการฟอกสีฟันแบบนำกลับไปทำด้วยตัวเองที่บ้าน ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลและแนะนำของทันตแพทย์ โดยนำน้ำยาฟอกที่ทันตแพทย์จัดให้ ใส่ลงบน Tray ที่ได้ทำการพิมพ์ปากไว้ นำไปใส่ตอนนอน ประมาณ 6-8 ชั่วโมง ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีราคาที่ไม่สูงมากนัก
ฟอกสีฟัน กับ วีเนียร์ ต่างกันอย่างไร
การฟอกสีฟันให้ขาว จะเป็นวิธีการเปลี่ยนสีฟันตามธรรมชาติด้วยการใช้น้ำยาฟอกสีฟัน ซึ่งจะทำปฏิกิริยาโดยตรงกับฟันและเนื้อฟัน จึงทำให้ฟันดูขาวขึ้น ส่วน การทำวีเนียร์ จะเป็นวิธีการนำเอาวัสดุพวก เรซินคอมโพสิต หรือเซรามิกไปเคลือบไว้บนผิวฟัน ซึ่งการทำวีเนียร์ได้จำเป็นต้องได้รับการกรอตัดบ้าง จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นเคลือบฟันเทียมเพื่อความสวยงามเป็นหลัก
บทความอ่านเพิ่มเติม : วีเนียร์ คืออะไร ราคาเท่าไหร่ เคลือบฟันขาวทันใจ ด้วยวีเนียร์ โดยทันตแพทย์
ฟอกสีฟัน เหมาะกับใคร
การฟอกสีฟัน หรือ ฟอกฟันขาว เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะคนในกลุ่มดังต่อไปนี้
- ผู้ที่ประกอบอาชีพที่อาศัยบุคลิกภาพที่ดี เน้นการยิ้ม การพูดคุย การเจรจากับผู้อื่น
- คนที่มีปัญหาเรื่องสีฟัน เช่น ฟันมีสีดำ คล้ำ สีเหลือง เนื้อฟันไม่ขาวใส
- ผู้ที่ชื่นชอบดื่มชา กาแฟ หรือสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดคราบหรือสีฟันดูหมองลงได้
- คนที่ใช้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งยาบางตัวจะส่งผลให้มีกระดูกและฟันไม่สมบูรณ์ ฟันเป็นสีเหลืองและสีน้ำตาลได้
ใครบ้างที่ไม่ควรฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟันหรือฟอกฟันขาวอาจไม่ได้ผลเสมอไป และไม่ใช่ทุกคนที่สามารถจะฟอกสีฟันได้ บางสาเหตุเป็นข้อจำกัดชั่วคราว บางสาเหตุอาจเป็นข้อจำกัดถาวร อย่างเช่นบุคคลในกลุ่มดังต่อไปนี้
- คุณแม่ที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์หรือคลอดแล้วแต่ยังต้องให้นมบุตร เนื่องจากในการฟอกสีฟันจะต้องมีการฉายแสง LED ซึ่งแสงนี้เองอาจรบกวนลูกน้อยในครรภ์ได้
- ผู้ที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับโรคเหงือก เหงือกอักเสบ และเหงือกร่น รวมถึงปริทันต์อื่นๆ เพราะน้ำยาที่ใช้ฟอกสีฟันนั้นอาจทำให้อาการที่เป็นอยู่รุนแรงขึ้นได้ จึงควรรักษาให้หายเสียก่อน
- คนที่มีอาการเสียวฟันอยู่ก่อนแล้ว หากทำการฟอกฟันขาวอาจทำให้มีอาการเสียวฟันเพิ่มขึ้น
- ผู้ที่ผ่านการทำเคลือบฟัน อุดฟัน ซ่อมคอฟันจะไม่สามารถฟอกสีฟันได้ เนื่องจากน้ำยาที่ใช้จะทำปฏิกิริยากับฟันแท้เท่านั้น
- คนที่กำลังจัดฟันอยู่ เพราะหากฟอกสีฟันตอนที่ยังมีเครื่องมือติดอยู่ น้ำยาจะสัมผัสกับฟันเฉพาะที่ไม่ติดเครื่องมือ ทำให้ฟันขาวไม่ทั่วถึง
- ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 16 ปี ยังไม่ควรฟอกสีฟันเนื่องจากเด็กที่อายุยังน้อยจะยังไม่หยุดการพัฒนาร่างกาย รวมถึงเส้นประสาทในฟันและโพรงประสาทฟันด้วย ถ้าทำไปอาจมีผลข้างเคียงตามมาคือ เกิดเสียวในโพรงฟัน รวมถึงเกิดความระคายเคืองง่ายกว่าผู้ใหญ่
- ผู้ที่มีฟันเป็นคราบสีเข้ม ฟันสีออกน้ำตาล จะมีการตอบสนองต่อการฟอกสีฟันได้น้อย และหากเป็นคราบสีเทาหรือม่วงก็อาจไม่ตอบสนองเลย โดยเฉพาะคราบสีเทาอมฟ้าที่เกิดจากการใช้ยาเตตราไซคลีน (Tetracycline) ซึ่งจะทำให้ขาวขึ้นได้ยาก
ขั้นตอนการฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์
- เข้าพบกับทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นการอุดฟัน รักษาอาการผิดปกติของฟัน หรือจัดฟันให้เสร็จก่อน รวมถึงทำการขูดหินปูน เพราะคราบหินปูนที่หนาเตอะอาจทำให้ประสิทธิภาพในการฟอกสีฟันไม่ดีเท่าที่ควร
- ทันตแพทย์จะทำการขัดฟัน ใส่ที่กั้นริมฝีปาก และใส่ที่ปกป้องเหงือก
- ทันตแพทย์จะทำการทาน้ำยาฟอกสีฟัน และใช้เครื่องมือทันตกรรมในการฟอกสีฟันตามที่เลือก เช่น ไฟ LED โดยใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที
การฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้าน ทำอย่างไร
- ต้องเข้าพบทันตแพทย์เพื่อรับการตรวจฟัน โดยทันตแพทย์จะให้คำแนะนำและทำการพิมพ์ปากเพื่อทำถอดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคลไว้สวมครอบฟัน หลังจากนั้นจะลองใช้ถาดฟอกสีฟันที่ทำสำเร็จ
- ทันตแพทย์จะแนะนำปริมาณของน้ำยาฟอกสีฟัน เพื่อให้คุณนำกลับไปทำที่บ้าน ดังนั้น ผู้ใช้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัดและรักษาสุขภาพอนามัยภายในช่องปากและฟันให้ดี
- หลังจากกลับบ้านให้คุณทำความสะอาดฟันด้วยการแปรงฟันก่อนทำการฟอกฟันขาว
ใส่น้ำยาฟอกสีฟันที่มีลักษณะเป็นเจลใสๆ 1-2 หยดไปบริเวณด้านแก้มของฟันที่ทันตแพทย์ได้แนะนำไว้ - ใส่ถาดฟอกสีฟันในปากให้สนิท ใช้สำลีชุบน้ำเช็ดส่วนที่เกินออกนอกถาดฟอกสีฟัน
- แนะนำให้ใส่ช่วงที่กำลังนอนหลับประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน หรือใส่ในช่วงตอนกลางวันอย่างน้อย 2 ชั่วโมงต่อวัน
- กลับมาตรวจเช็คกับทันตแพทย์ใน 4-7 วันแรกเพื่อตรวจดูความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น
- หลังจากนั้นให้ฟอกสีฟันต่อเนื่องจนกว่าจะได้ผลที่พึงพอใจ โดยปกติจะเห็นผลเต็มที่ภายใน 2 สัปดาห์
ข้อปฏิบัติหลังการฟอกสีฟัน
หลังจากทำการฟอกสีฟันแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องดูแลช่องปากให้สะอาดอย่างเคร่งครัด โดยคุณจะต้องปฏิบัติตัวตามที่ทันตแพทย์สั่ง ดังนี้
- ในช่วงวันแรกหลังจากการฟอกสีฟัน บางรายอาจมีอาการเสียวฟัน ทันตแพทย์จะแนะนำให้ใช้ ยาสีฟันที่ลดอาการเสียวฟัน หรือทานยาแก้ปวด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอาการเสียวฟันนี้จะหายเองได้ใน 48 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงอาหารดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสี เช่น ซอสมะเขือเทศ, ซีอิ๊ว, พริก เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เช่น ไวน์ ชา กาแฟ น้ำส้ม และเครื่องดื่มเกลือแร่
- หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นกรด เช่น น้ำผลไม้รสเปรี้ยว, น้ำส้มสายชู, น้ำวิตามิน เพราะจะทำให้เหงือกระคายเคืองแต่ยังทำให้เสียวฟันได้ง่ายขึ้น
- หลีกเลี่ยงงอาหารหวาน เช่น เค้ก เนื่องจากจะกระตุ้นแบคทีเรียซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองฟันและทำให้ฟันเป็นคราบได้
- งดสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่ทำให้เกิดคราบบนผิวฟัน หากทำความสะอาดได้ไม่ดี จะทำให้ฟันกลับมาเหลืองเร็ว
- ทำความสะอาดด้วยการแปรงฟันอย่างถูกวิธีอย่างเป็นประจำ อย่างน้อยเช้า-เย็น
- ใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันเป็นประจำ เพื่อขจัดเศษอาหารที่ติดตามร่องฟัน ซึ่งแปรงสีฟันปกติเข้าไปทำความสะอาดไม่ถึง
- เข้ารับการตรวจสุขภาพฟันกับทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน เพื่อสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี
หลังฟอกสีฟันกินอะไรได้บ้าง
หลังจากทำการฟอกสีฟันมาแล้ว หลายคนอาจจะกังวลเรื่องการรับประทานอาหาร แน่นอนว่า มีอาหารบางประเภทที่คุณควรหลีกเลี่ยง แต่ก็มีอาหารอีกหลายประเภทเช่นกันที่คุณสามารถรับประทานได้ ยกตัวอย่างเช่น
- นมไขมันต่ำ
- ข้าวขาว, พาสต้า, หรือขนมปัง โดยรับประทานในปริมาณที่จำกัดเนื่องจากการรับประทานแป้งที่มากเกินไปทำให้เกิดฟันผุได้
- ไก่งวงหรือไก่ไม่มีหนัง
- เนื้อปลาสีขาว และหลีกเลี่ยงการใส่เครื่องเทศหรือซอสที่มีสี
- ชีสที่มีสีขาว โดยแนะนำให้รับประทานชีสที่มีไขมันต่ำ
- มันฝรั่งที่ปอกเปลือกแล้ว
- ดอกกะหล่ำหรือหัวหอมสีขาว
- เต้าหู้ เนื่องจากทั้งกินง่าย โปรตีนเยอะ และไม่มีสี
- ไข่ขาว ควรกรองไข่แดงทิ้ง
- กล้วย เพราะเป็นผลไม้สีอ่อนมาก
ข้อดีของการฟอกสีฟันเองที่บ้าน
การฟอกฟันขาวที่บ้านด้วยตัวเองนั้น มีข้อดีหลายอย่าง ดังนี้
- สะดวกสบาย เนื่องจากคุณสามารถฟอกฟันขาวได้ด้วยตัวเองจากที่บ้านได้เลย
- เกิดโอกาสเสียวฟันน้อยกว่าเนื่องจากการฟอกสีฟันด้วยตัวเอง หรือ Home Bleaching จะใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นต่ำประมาณ 10-20% ทำให้มีผลข้างเคียงน้อย และมีความปลอดภัยสูง
- สามารถพกพาได้สะดวก และเลือกทำเวลาไหนก็ได้ อีกทั้งถาดครอบฟันยังใช้ซ้ำได้ ส่วนน้ำยา หรือเจลฟอกสีฟันสามารถซื้อแยกได้
- สามารถฟอกซ้ำด้วยตัวเองได้เมื่อฟันเหลือง ทำให้ฟันขาวได้ยาวนาน
- ราคาไม่สูงมาก เเละยังเป็นการรักษาฟันขาวในระยะยาวควบคู่กับการฟอกฟันขาวที่คลินิกได้ด้วย
- สามารถเลือกฟอกสีฟันซ้ำเฉพาะซีกได้
ข้อจำกัดของการฟอกสีฟันด้วยตัวเอง
แม้การฟอกสีฟันด้วยตัวเองจะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็มีข้อจำกัดด้วยเช่นกัน คือ
- ต้องฟอกสีฟันหลายครั้ง และใช้ระยะเวลานานกว่าถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน โดยการฟอกสีฟันด้วยตัวเองครั้งแรกอาจต้องใช้น้ำยาฟอกสีฟัน 2-3 หลอด ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดการระคายเคืองที่เนื้อเยื่ออ่อนในช่องปากได้
- หากใช้ถาดครอบฟันที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่พอดีกับรูปฟัน หรือใช้ถาดครอบฟันสำเร็จรูป ทำให้น้ำยาฟอกสีฟันซึมออกจากถาดครอบฟันไปสัมผัสกับเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปากจนเกิดการระคายเคืองได้เช่นเดียวกัน
ทางที่ดีที่สุดของการฟอกฟันคือ ปรึกษาทันตแพทย์ก่อนฟอกสีฟัน และต้องรักษาฟันและเหงือกให้อยู่ในสภาพที่ดีก่อนจึงจะฟอกสีฟันได้ ซึ่งโดยทั่วไปก่อนเข้ารับการฟอกสีฟัน ทันตแพทย์จะตรวจเช็กสุขภาพฟันก่อนเสมอ
ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว ราคา
การฟอกฟันขาว มีหลากหลายเรตราคา ขึ้นอยู่กับรูปแบบการรักษาที่คนไข้เลือก ซึ่งคุณสามารถดูรายละเอียดของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ได้จากตารางด้านล่างนี้
| รายการ | ราคา |
| ฟอกสีฟัน ระบบ Cool Light (ที่คลินิก) | 8,000 บาท |
| ฟอกสีฟัน Home Bleaching (ทำเองที่บ้าน) | 4,500 บาท |
รีวิวฟอกฟันขาว
ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว ช่วยแก้ฟันเหลือง และทำให้ฟันขาวขึ้นจริงไหม ใครที่ไม่แน่ใจว่าจะทำการฟอกสีฟันดีไหม แนะนำให้ดูรีวิวการฟอกฟันขาวของคลินิกทันตกรรมสีวลี เพื่อดูภาพเปรียบเทียบก่อน – หลังจากการฟอกฟันขาวจากคนไข้ที่เคยเข้ารับบริการมาก่อนได้เลย
ฟอกสีฟันที่ไหนดี
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเข้ารับบริการฟอกสีฟันที่ไหนดี เรามีคำแนะนำในการเลือกคลินิกในการฟอกฟันขาว ดังนี้
- ควรเลือกคลินิกที่ได้รับมาตรฐานการรับรอง มีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง
- ควรเข้ารับคำปรึกษากับทีมทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฟอกสีฟัน เนื่องจากแพทย์ทั่วไปย่อมไม่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางการทำทันตกรรมโดยตรง ซึ่งการปรึกษากับทันตแพทย์ ทันตแพทย์จะช่วยทำการประเมินสุขภาพช่องปากและฟันของคนไข้ก่อนว่าสามารถฟอกสีฟันได้ไหม
- ควรเลือกคลินิกที่มีการเครื่องมือที่ทันสมัย สะอาด และปลอดภัย เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อจากเครื่องมือที่ไม่สะอาด
ซึ่ง คลินิกทันตกรรมสีวลี (Sivalee Dental Clinic) ของเราเป็นคลินิกทันตกรรมชั้นนำที่เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพในช่องปากและฟันมามากกว่า 20 ปี โดยเราจะดูแลคุณตั้งแต่การตรวจ วินิจฉัย และวางแผนการรักษา ซึ่งจะช่วยทำให้คุณมั่นใจได้ว่า การฟอกสีฟันกับเราจะปลอดภัย ไม่อันตราย และได้ผลลัพธ์ตามต้องการอย่างแน่นอน
คำถามที่พบบ่อย
ฟอกสีฟัน ดีไหม
สำหรับคนที่ลังเลใจว่าจะฟอกสีฟันดีไหม ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การฟอกสีฟัน นับเป็นหนึ่งวิธีทางทันตกรรมที่ช่วยเรียกคืนความขาวสะอาดของสีฟันที่ขาวสดใส ให้กลับคืนมา หากคุณมีปัญหาเรื่องลักษณะฟันมีคราบเหลือง หรือฟันสีไม่สม่ำเสมอ ไม่มั่นใจในรอยยิ้ม และมีความต้องการมีรอยยิ้มที่มีฟันขาวใส ดูสะอาด ในระยะเวลาอันรวดเร็ว การฟอกสีฟันก็ถือว่าตอบโจทย์สำหรับคุณ เพราะการฟอกฟันทำได้ง่ายๆ และไม่ต้องเสียเวลาในการรักษาดูแลนาน ก็สามารถเพิ่มความมั่นใจ และมีฟันขาวน่ามองได้แล้ว
ฟอกสีฟันอยู่ได้นานไหม?
หลังจากทำการฟอกฟันขาวไปแล้ว จะอยู่ได้ประมาณปีครึ่งถึงสองปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่ที่พฤติกรรมการใช้รับประทาน ดื่ม หรือการใช้ช่องปากของคนไข้ด้วย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหากไม่ได้รับประทานอาหารสีจัดๆ หรือดื่มชา กาแฟ บ่อยๆ สีจะหมองลงโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปี
ฟอกสีฟันใช้เวลานานไหม?
ปกติแล้วการฟอกสีฟันจะใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 45 – 60 นาทีเท่านั้น
ฟอกสีฟันแล้วมีอาการเสียว เกิดจากอะไร?
ฟอกสีฟันแล้วมีอาการเสียว เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- การสึกของเคลือบฟันบางลงจนถึงชั้นเนื้อฟันที่อยู่ใกล้กับโพรงประสาทฟันซึ่งมีเส้นประสาทเป็นจำนวนมาก เมื่อของเหลวในท่อเนื้อฟันเคลื่อนตัวไปกระตุ้นปลายประสาทฟันก็จะทำให้เกิดอาการเสียวฟัน
- ในผู้ที่มีฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือฟันร้าว หากทำการฟอกสีฟันจะมีอาการเสียวฟันมากกว่าคนปกติ
- เกิดจากอาการเหงือกร่น รากฟันโผล่ ซึ่งอาการเสียวฟันนั้นจะเกิดจากการที่รากฟันไม่มีสารเคลือบฟัน จึงทำให้ไวต่อสิ่งกระตุ้นภายนอก เช่น ความร้อนจัด ความเย็นจัด รสหวาน รสเปรี้ยว เป็นต้น จึงทำให้มีอาการเสียวฟันจากการทำฟอกฟันขาวได้ ควรปรึกษาทันตแพทย์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษารากฟัน
- เกิดจากระหว่างที่สารฟอกสีฟันซึมเข้าชั้นเคลือบฟันเพื่อแตกตัวเม็ดสี อาจทำให้ปลายประสาทได้รับกระทบทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้
สรุป
การฟอกฟันขาว มีทั้งรูปแบบที่ทำเองที่บ้านได้ รวมถึงการเข้ารับบริการกับทางทันตแพทย์โดยตรง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากคุณต้องการฟอกสีฟันควรทำหรือได้รับคำแนะนำจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ถึงจะปลอดภัยและได้ผล และไม่แนะนำให้ฟอกสีฟัน หรือซื้อน้ำยาฟอกฟันขาวมาทำเองที่บ้านโดยไม่ได้รับคำปรึกษาจากเด็ดขาด เพราะมีโอกาสเสี่ยงต่อสุขภาพช่องปาก เช่น การอักเสบ การเสียวฟัน การระคายเคือง ความเสียหายของประสาทฟันตามมาได้
เพื่อความปลอดภัยในการทำทันตกรรมของคุณสามารถปรึกษาเรา ‘คลินิกทันตกรรมสีวลี’ เรามีทีมทันตแพทย์เฉพาะทางคอยให้คำแนะนำให้กับคุณได้ สามารถติดต่อขอรับปรึกษาได้ฟรีที่ Line และ Facebook เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีและฟันที่จะกลับมาขาวใสของคุณ