เหงือกร่น ทำยังไง? รักษาได้ไหม ดูคำตอบจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

เหงือกร่น

‘เหงือกร่น’ เป็นปัญหาภายในช่องปากที่พบได้บ่อย แต่คนไข้มักจะไม่รู้ตัว หรือถ้ารู้ก็มักจะละเลยเพราะคิดว่า สุดท้ายอาการนี้จะหายไปเองได้ แต่รู้หรือไม่ว่า หากปล่อยอาการเหงือกร่นนี้ไว้นานๆ จะนำไปสู่การสูญเสียฟันแบบถาวรได้จากโรคร้ายแรงภายในช่องปาก แถมยังทำให้เสียบุคลิกภาพเพราะคุณไม่มั่นใจที่จะเผยรอยยิ้มแบบเต็มๆ ได้อีกต่อไป

ทางที่ดีที่สุดคือการรักษาและป้องกันไม่ให้เกิดอาการเหงือกร่นได้อีก ว่าแต่จะต้องเริ่มยังไง รักษาเหงือกร่น แบบไหน มีอะไรที่คุณต้องรู้บ้าง วันนี้คลินิกทันตกรรมสีวลีได้นำความรู้จากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรามาให้คำตอบในเรื่องนี้กับคุณแล้ว

เหงือกร่น คืออะไร

อาการเหงือกร่น (Gingival Recession) คือ อาการของโรคในช่องปากที่ทำให้เหงือกรอบๆ ฟันเลื่อนตัวจากตำแหน่งปกติลงไปอยู่ด้านล่างของฟัน ร้ายแรงสุดคือเหงือกร่นลงมาจนถึงขั้นเห็นรากฟันโผล่ออกมา ซึ่งโดยปกติแล้วเหงือกจะทำหน้าที่เป็นเนื้อเยื่อที่หุ้มตัวฟัน และกระดูกขากรรไกรเอาไว้ทั่วไปจนถึงรากฟัน แต่ถ้าเป็นเหงือกร่นแล้วละก็… จะทำให้คุณรู้สึกว่าฟันยาวผิดปกติได้จากการที่เลื่อนตำแหน่งลงมานั่นเอง

อาการของเหงือกร่น

อาการเหงือกร่นสัญญาณของโรคเหงือกร่นนั้นอาจไม่ได้ทำให้คนไข้รู้ตัวได้ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่จะค่อยๆ สะสมจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ภายหลังได้ ดังนั้น คุณควรสังเกตสุขภาพในช่องปากอย่างสม่ำเสมอ หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้อาจหมายความว่า คุณกำลังเผชิญหน้ากับอาการเหงือกร่นอยู่ก็เป็นได้

  • ฟันดูยาวขึ้นจากปกติและเหงือกดูสั้นลง
  • อาการเสียวฟัน จากการดื่มของเย็น ทานอาหาร หรือเกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง
  • มีเลือดออกหลังจากแปรงฟัน หรือหลังการใช้ไหมขัดฟัน
  • เหงือกบวมแดงและเปื่อย
  • มีกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์
  • มีอาการเจ็บบริเวณเหงือก ไปจนถึงฟันเริ่มโยก

สาเหตุของเหงือกร่น

สำหรับสาเหตุของการเกิดโรคเหงือกร่นนั้นสามารถเกิดจากหลายปัจจัยประกอบกัน โดยจากการศึกษาพบว่าสาเหตุเหล่านี้ล้วนมีส่วนทำให้เนื้อเหงือกร่นถอยลง ได้แก่

  • การแปรงฟันผิดวิธี เช่น แปรงฟันแรงจนเกินไป ซึ่งไม่ใช่วิธีการทำความสะอาดฟันที่ถูกต้อง เมื่อทำไปนานๆ ย่อมทำให้เกิดอาการเหงือกร่นได้
  • พฤติกรรมบางประการ เช่น การนอนกัดฟัน การสูบบุหรี่ การดูแลสุขภาพในช่องปากที่ไม่ดีพอ เป็นต้น
  • การจัดฟัน เนื่องจากอุปกรณ์จัดฟันมีหน้าที่ทำให้ฟันเคลื่อนที่ หากบางคนปล่อยระยะเวลาการจัดฟันไว้นานจนเกินไป ร่วมกับการดูแลที่ไม่ดี หรือใส่อุปกรณ์จัดฟันที่ไม่พอดี ไม่ได้มาตรฐาน ด้วยสาเหตุเหล่านี้ก็จะส่งผลต่อเหงือกและทำให้เกิดอาการเหงือกร่นได้เช่นกัน
  • อายุที่มากขึ้นโดยผู้สูงอายุอาจเริ่มต้นจากการเกิดภาวะเหงือกร่น จากการใส่ฟันปลอมที่ไม่พอดีจนเกิดการเสียดสีกับเหงือกมากจนเกินไปหรือด้วยปัจจัยอื่นๆ เช่น การปรับเปลี่ยนฮอร์โมน การใช้ชีวิตประจำวัน การใช้ยาเพื่อรักษาโรคประจำตัว เป็นต้น
  • ลักษณะทางพันธุกรรม เช่น หากพ่อแม่ของคุณมีภาวะเหงือกร่นคุณก็มีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเป็นเหงือกร่นด้วยเช่นกัน
  • การติดเชื้อแบคทีเรียในช่องปากหรือที่เหงือก รวมถึงได้รับบาดเจ็บอื่นๆ ด้วย
  • เกิดจากการสะสมของคราบพลัค ที่สะสมไปเป็นของหินปูน หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้เหงือกเริ่มร่นในที่สุด และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพเหงือก รวมถึงเหงือกอักเสบ (Gingivitis) ได้

คราบพลัคและปัญหาสุขภาพเหงือก

อย่างที่บอกไปแล้วว่า ‘คราบพลัค’ (Plaque) หรือ คราบจุลินทรีย์ที่เกิดจากแบคทีเรียและน้ำตาล มีลักษณะเหมือนแผ่นเคลือบ เกาะอยู่ตามผิวฟัน ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพในช่องปากอย่างโรคเหงือกร่น ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานๆ ก็จะทำให้กลายเป็นโรคต่างๆ เช่น ปัญหาเหงือกบวม เหงือกอักเสบ (Gingivitis), อาการเลือดออกขณะแปรงฟัน, โรคปริทันต์อักเสบ (Periodontitis) ลามไปจนถึงการสูญเสียฟันไปแบบถาวรได้

วิธีการป้องกันการสะสมของคราบพลัค

ทางที่ดีที่สุดในการรักษาและป้องกันสุขภาพในช่องปากให้ห่างไกลจากโรคเหงือกร่น คือการขจัดคราบพลัคที่สะสมอยู่ภายในช่องปาก โดยเฉพาะบริเวณขอบเหงือกและซอกฟัน ซึ่งเป็นพื้นที่เล็กๆ ที่คนมักละเลย แต่รู้หรือไม่ว่าบริเวณนี้เป็นแหล่งสะสมคราบพลัคมากที่สุด ซึ่งการแปรงฟันอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แต่ควรจะดูแลเพิ่มเติมด้วยสิ่งเหล่านี้

  • ใช้ไหมขัดฟันหรือใช้แปรงทำความสะอาดซอกฟันอยู่เสมอ เนื่องจากบริเวณซอกฟันและขอบเหงือกอาจจะเป็นพื้นที่เล็กๆ ที่แปรงสีฟันทำความสะอาดไม่ทั่วถึง การใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันก็จะช่วยทำความสะอาดในบริเวณนี้ได้
  • ใช้น้ำยาบ้วนปากสำหรับปัญหาเหงือกโดยเฉพาะเป็นตัวช่วยเสริมที่ควบคู่กับการดูแลช่องปากพื้นฐานได้
  • ใช้ยาสีฟันขจัดคราบพลัค ซึ่งยาสีฟันประเภทนี้ส่วนใหญ่จะช่วยเคลือบฟันไม่ให้คราบมาเกาะกับหยุดการเติบโตของเชื้อโรคไม่ให้ขยายตัวได้
  • ทำการขูดหินปูนเป็นประจำ โดยเข้ารับบริการกับทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน

หากอยากศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการขูดหินปูน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : ขูดหินปูน ดีไหม เจ็บไหม ไม่ขูดได้ไหม โดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การวินิจฉัยอาการเหงือกร่น

อาการเหงือกร่นนั้นเป็นปัญหาในช่องปากที่สังเกตได้ค่อนข้างยาก แต่หากเป็นมาสักระยะหรือมีอาการมากขึ้น ทันตแพทย์จะสามารถสังเกตได้จากการที่เห็นเหงือกมีลักษณะร่นลงมาที่โคนฟัน ในบางรายก็ร่นลงมาจนเห็นรากฟันโผล่เลยทีเดียว ซึ่งทันตแพทย์จะวินิจฉัยจากความลึกของร่องเหงือก หากมีความลึกประมาณ 1-3 มิลลิเมตรแปลว่าเหงือกมีลักษณะปกติ แต่หากมีความลึกกว่า 3 มิลลิเมตร แพทย์จะสันนิษฐานว่า คนไข้มีอาการของโรคเหงือกร่น แพทย์จะทำการซักถามหาสาเหตุ และเมื่อพบสาเหตุแล้วก็จะเริ่มรักษาในขั้นต่อไป

การรักษาเหงือกร่น

หากพบว่า คุณมีอาการเหงือกบวม แปรงฟันแล้วเลือดออก มีอาการเสียวฟันร่วมด้วย รวมถึงสังเกตเห็นได้ว่าตัวฟันมีลักษณะยาวมากกว่าปกติ แสดงว่าคุณอาจกำลังเป็นโรคเหงือกร่น ซึ่งคุณควรได้รับการรักษาเหงือกร่นโดยทันตแพทย์เฉพาะทางด้านปริทันต์ ซึ่งทันตแพทย์จะทำการวินิจฉัย และทำการรักษาตามสาเหตุการเกิดโรคเหงือกร่น

เช่น ‘ขูดหินปูนและขัดฟัน’ ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อขจัดคราบที่ติดแน่นของคราบพลัคออกเพื่อให้ฟันของคุณสะอาดอย่างทั่วถึง, หากเกิดจากการแปรงฟันผิดวิธี ก็ควรเรียนรู้วิธีการแปรงฟันที่ถูกต้อง เป็นต้น นี่จึงจะเป็นวิธีการแก้เหงือกร่นและฟื้นฟูเหงือกร่นได้อย่างยั่งยืน ซึ่งถ้าหากคุณเข้าพบทันตแพทย์เป็นประจำ และทำตามที่ทันตแพทย์แนะนำ ก็จะช่วยทำให้สุขภาพปากและฟันของคุณห่างไกลจากโรคเหงือกร่นได้ในระยะยาว

ภาวะแทรกซ้อนจากอาการเหงือกร่น

หลังจากเกิดอาการเหงือกร่นที่ทำให้ฟันไม่สามารถยึดติดกับที่ได้แน่นหนาเหมือนเดิม และหากคนไข้ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมอาจทำให้มีอาการรุนแรงมากขึ้นจนเป็นโรคปริทันต์ ซึ่งเป็นโรคที่มีการอักเสบของอวัยวะที่อยู่รอบๆ ตัวฟัน ได้แก่ เหงือก เอ็นยึดปริทันต์ เคลือบรากฟัน และกระดูกเบ้าฟัน ถ้าไม่ได้รับการรักษาอวัยวะต่างๆ เหล่านี้จะถูกทำลายไปอย่างช้าๆ ทุกวัน จนต้องเข้ารับการรักษารากฟัน หากรักษาไม่ทันอาจจะต้องสูญเสียฟันซีกนั้นไป และต้องใส่ฟันปลอมในที่สุด นอกจากนี้ ยังส่งผลให้สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง ไม่กล้ายิ้ม เนื่องจากกลัวว่าผู้อื่นจะเห็นความผิดปกติของฟันได้

การป้องกันเหงือกร่น

วิธีรักษาเหงือกร่นการป้องกันเหงือกร่นนั้นทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง รวมทั้งเข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพในช่องปากเป็นประจำ ดังนี้

  • การแปรงฟันอย่างถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง นานครั้งละ 3-5 นาที โดยใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ช่วยป้องกันฟันผุ และไม่แปรงแรงจนเกินไป ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำทุกวัน
  • เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนาดเหมาะสมไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป รวมถึงเลือกใช้แปรงขนนุ่มที่ไม่ทำร้ายเหงือกและฟัน
  • ควรตรวจเช็คและขูดหินปูนกับทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อสุขภาพเหงือกและฟันที่ดี
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะจะส่งผลให้เกิดโรคเหงือกอักเสบ เหงือกร่น หรือโรคปริทันต์ง่ายและรุนแรงกว่าคนทั่วไป
  • การนวดเหงือกเบาๆ ด้วยปลายนิ้วแบบถูกวิธี จะกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือดบริเวณเหงือก ทำให้เหงือกมีสุขภาพดี เหงือกก็จะร่นได้ยากขึ้นด้วย

รักษาเหงือกร่นที่ไหนดี

สำหรับการเลือกว่าจะรักษาเหงือกร่นที่ไหนดี ก่อนอื่นเลยควรเริ่มต้นเลือกจากคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ได้มาตรฐานด้วยการขึ้นทะเบียนกระทรวงอย่างถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการ 11 หลัก มีบริการครบวงจรด้านทันตกรรม พร้อมทีมทันตแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคปริทันต์ และเราขอแนะนำให้เข้าไปที่คลินิกเพื่อรับคำปรึกษาสั้น ๆ ด้วยตัวคุณเอง เพื่อดูบรรยากาศในคลินิก และใช้ในการตัดสินใจ

อย่าง คลินิกทันตกรรมสีวลี (Sivalee Dental Clinic) เรามีทีมทันตแพทย์เฉพาะทางทุกสาขา ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีคอยให้การดูแลและให้คำปรึกษา พร้อมการบริการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย สะอาด ปลอดภัย ช่วยในทุกขั้นตอนของการรักษา อีกทั้งมีรีวิวเคสจากคนไข้อีกมากมาย เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าปัญหาสุขภาพในช่องปากอย่าง ‘เหงือกร่น’ จะได้รับการแก้ไขและทำให้หายขาดได้อย่างแน่นอน

คำถามที่พบบ่อย

รักษาเหงือกร่นด้วยตัวเองได้ไหม

การรักษาอาการเหงือกร่นด้วยตัวเองนั้นทำได้เฉพาะการบรรเทาอาการเท่านั้น ซึ่งถ้าหากคุณมีปัญหาเหงือกร่นรุนแรง แนะนำให้ไปปรึกษาและให้ทันตแพทย์เฉพาะทางด้านปริทันต์ตรวจสอบถึงสาเหตุและหาตัวเลือกในการรักษาให้จะดีที่สุด ซึ่งระหว่างนี้คุณสามารถทำให้อาการเหงือกร่นดีขึ้นได้จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นต้นเหตุของการอาการเหงือกร่นจากที่บ้านได้ เพื่อเป็นการฟื้นฟูเหงือกร่นให้ดีขึ้นอีกช่องทางหนึ่งด้วย

มียาแก้เหงือกร่นไหม

ปกติแล้วไม่มียาแก้เหงือกร่น เนื่องจากการรักษาโรคภายในช่องปากทุกชนิดจําเป็นต้องกําจัดสาเหตุออกไป เพราะฉะนั้นการรักษาหลักๆ ของโรคเหงือกร่นจึงเป็นการกำจัดต้นตอของการที่ทำให้เกิดอาการเหงือกร่น ร่วมกันกับการดูแลรักษาโดยทันตแพทย์

เหงือกร่นจัดฟันได้ไหม

ผู้ที่เป็นโรคเหงือกไม่ว่าจะมีอาการเหงือกร่น เหงือกอักเสบ หรือปริทันต์อักเสบ สามารถทำการจัดฟันได้ แต่ต้องรักษาให้หายก่อน โดยทันตแพทย์จะวางแผนรักษาให้ ตั้งแต่เริ่มทำจนแล้วเสร็จกระบวนการรักษาโรคเหงือกและการจัดฟัน

หากอยากทราบว่าการจัดฟันมีกี่แบบ แบบไหนที่เหมาะกับเรา สามารถอ่านได้ที่ : จัดฟันมีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร ราคาเท่าไหร่ เลือกแบบไหนเหมาะกับคุณ 2021

เหงือกร่นอุดฟันได้ไหม

สามารถทำการอุดฟันได้ หากมีฟันสึกและเสียวฟันก็แนะนำอุดฟันด้วยวัสดุอุดสีเหมือนฟันเพื่อความสวยงามได้ด้วย

แก้ไขฟันห่างจากอาการเหงือกร่นได้ไหม

สำหรับคนที่เป็นโรคเหงือกอักเสบอาจมีการละลายของกระดูกรอบๆ เบ้าฟัน และมีอาการเหงือกร่นทำให้เห็นช่องสามเหลี่ยมระหว่างฟันได้ ซึ่งหลายคนคิดว่านี่คืออาการฟันห่าง แต่จริงๆ แล้วเกิดจากอาการเหงือกที่ร่นลงมาจนเกิดเป็นช่องระว่างฟัน ซึ่งถ้าใครกังวล ขาดความมั่นใจ ก็สามารถทำการอุดปิดช่องสามเหลี่ยมระหว่างฟันได้ ส่วนราคาจะขึ้นอยู่กับระยะห่างและขนาดของช่องสามเหลี่ยมระหว่างฟัน

สรุป

อันตรายจากโรคเหงือกร่นอาจไม่เกิดขึ้นทันที แต่มีผลในระยะยาว เพราะส่วนเนื้อฟันที่โผล่ออกมาจะเป็นแหล่งสะสมของคราบหินปูน และเป็นแหล่งเจริญเติบโตของเชื้อโรค ถ้าไม่รักษาจะทำให้กระดูกฟันเสื่อมและหลุดร่วงได้ในที่สุด

ดังนั้นทางที่ดีที่สุดในการปกป้องเหงือกและฟันของคุณให้ห่างไกลจากโรคในช่องปากคือการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี รวมถึงเข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเหงือกและฟันเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน หรืออย่างน้อยปีละครั้งก็จะช่วยทำให้ช่องปากสะอาดและลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพช่องปากไปพร้อมๆ กันได้ในระยะยาว

หากสนใจปรึกษาเรื่องการรักษาเหงือกร่นกับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถสอบถามผ่านทาง Line และ Facebook ของคลินิกทันตกรรมสีวลีได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย